
หลายคนอาจมองว่า วิธีออมเงินเป็นสิ่งที่ พูดง่ายแต่ทำยาก เพราะไม่ว่าจะ พ ย า ย า ม แค่ไหน สุดท้ายก็เผลอเอาเงิน นั้นไปใช้จ่ายทุกที แต่ความจริงแล้วการเก็บเงินนั้น
ไม่ใช่เรื่องยากหากแต่ขึ้นอยู่กับวินัยของผู้เก็บ ถ้าสามารถควบคุมตัวเองได้ การจะมีเงินก้อนใหญ่ในอนาคตก็ไม่ใช่แค่ฝัวันนี้เรารวบรวมเคล็ดวิธีออมเงินมาให้ทุกคนได้
ลองทำตามกันถึง 6 วิธี!ต่อให้เป็นคนเก็บเงินยากแค่ไหน ก็สามารถมีเงินออมมากขึ้นได้ มาดูกันเลย!
อยากเก็บเงินให้อยู่? มาดูวิธีออมเงินตามนี้เลย!
สำหรับคนส่วนใหญ่ เมื่อมีเงินอยู่ในมือแล้วมักจะคิดกันว่า “ใช้ไปก่อนแล้วสิ้นเดือนเหลือเท่าไหร่ค่อยเก็บ” แต่รู้ตัวอีกทีพอเข้ากลางเดือนเงิน ก็แทบไม่เหลือแล้ว สุดท้ายก็
ไม่ได้เก็บเงินสักบาท ยิ่งเป็นวัยทำงานที่จะต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายมากมาย ทั้งค่าเช่าบ้าน ค่าผ่อนรถ เงินที่จะต้องส่งทางบ้าน ฯลฯการจะมีเงินเหลือเก็บตอนสิ้นเดือนได้นั้น
ยิ่งยากเข้าไปใหญ่แต่ความจริงแล้ว พฤติกรรมนี้สามารถปรับปรุงได้ง่ายๆ หากมีวิธีออมเงินดีๆ และใช้ได้ผลจริง โดยการทำตามเทคนิคนิคดังต่อไปนี้!
1. เก็บก่อนใช้
ถ้าคิดว่าตัวเองไม่สามารถเหลือเกินไว้ เก็บตอนสิ้นเดือนได้ วิธีออมเงินวิธีแรกก็คือ หั ก ดิ บ เก็บเงินก่อนใช้ไปเลย! ยกตัวอย่างเช่น เมื่อคุณได้เงินเดือนมาแล้ว ให้คำนวณ
ค่าใช้จ่ายที่มีและประมาณเงินที่สามารถเก็บได้ในเดือนนั้น แล้วแยกเงินส่วนที่เก็บได้ออกมาต่างหากทันทีโดยอาจ โ อ น ไปยังอีกบัญชีธนาคารหนึ่ง หรือหยอดกระปุกออมสิน
เอาไว้หรือ ถ้าคุณต้องการความสะดวก ปัจจุบันมีแอปพลิเคชั่นจากธนาคาร ที่สามารถตั้งค่า โ อ น เงินอัตโนมัติได้ในทุกๆ เดือนถ้าคุณกลั้นใจไม่ถอนเงินที่มีส่วนนั้น
ออกมาใช้ได้ รับรองว่าคุณจะมีเงินเก็บในทุกๆ เดือนอย่างแน่นอน
2. แบ่งเงินเป็นสัดส่วน
วิธีออมเงินนี้ เหมาะสำหรับ ผู้ที่อยากบริหารการเงินให้ดีในทุกๆ ด้าน ทั้งเงินเก็บ เงินที่ใช้ และหนี้สินต่างๆ อีกทั้งยังทำให้คุณเห็นภาพรวมของเงินด้วยว่าใช้จ่ายไปกับอะไรบ้าง
โดยการแบ่งสัดส่วนเงินหลัก หักค่าใช้จ่ายแล้ว เราขอแนะนำให้แบ่งออกเป็น 4 ส่วนดังนี้
– เงินสำหรับใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน 60%
– เงินสำหรับใช้จ่ายเพิ่มความสุขให้ตัวเอง 20%
– เงินสำหรับเก็บออม 10%
– เงินเผื่อใช้จ่าย ย า ม ฉุ ก เ ฉิ น 10%
โดยสัดส่วนนี้ จะทำให้คุณสามารถใช้เงินได้ อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เป็นการฝืนตัวเองให้เก็บเงิน เยอะจนเกินไป อีกทั้งยังมีเผื่อไว้จ่าย ย า ม ฉุ ก เ ฉิ น อีกด้วย
3. ตั้งเป้าหมายในการเก็บเงิน
บางทีที่คุณยังเก็บเงินไม่อยู่ เพราะไม่รู้จะเก็บไปทำอะไร เสียมากกว่า ฉะนั้นหากตั้งเป้าหมายว่า “เราจะเก็บเงินเพื่อสิ่งนี้!” อาจช่วยสร้างความฮึกเหิมในการเก็บเงิน
ได้ยกตัวอย่างเช่น อยากมีเงินแสนตอนอายุ 25 ภายในสิ้นปี จะต้องมีเงินพอสำหรับไปต่างประเทศ หรือเพื่อเปิดกิจการสร้างธุรกิจส่วนตัวการสร้างแรงจูงใจนี้จะช่วยให้คุณ
ไปถึงเป้าหมายได้ง่ายกว่าการที่เก็บไปเรื่อยๆ แบบไร้จุดหมาย
4. กำหนดจำนวนเงินที่ต้องใช้
ลองเปลี่ยนมาใช้วิธีออมเงิน ที่เรียบง่ายที่สุด นั่นก็คือการกำหนดเงินที่ ใช้ในแต่ละวัน อย่างตอนเด็กๆ ที่คุณได้เงินมาใช้วันละ 100 บาท แต่ก็มีพอกินพอใช้สบายๆ
คราวนี้ลองเปลี่ยนมาคำนวณเพื่อใช้สำหรับปัจจุบันดูบ้างยกตัวอย่างเช่น ใน 1 วันมีค่า อ า ห า ร เช้า กลางวันและเย็นประมาณ 180 บาท ค่ารถไปกับ 50 บาท เมื่อ
ลองประมาณเผื่อค่าใช้จ่ายอื่นๆ แล้ว คุณอาจนำเงินออกไปใช้เพียงวันละ 300 บาทไม่เกินกว่านี้แนะนำว่าให้นำเงินรายวัน เก็บเป็นซองไว้ พอจะออกจากบ้านก็หยิบเงิน
ถุงเงินไปใช้ เป็นการบังคับรายจ่ายที่ได้ผลดีทีเดียว
5. เลือกเก็บแบงค์ 50
วิธีนี้เป็นที่นิยมและค่อนข้างได้ผล อีกทั้ง ยังไม่สร้างภาระทางการเงินมากนัก เพราะแบงค์ 50 มีโอกาส ที่จะได้รับมาค่อนข้างน้อย แต่เมื่อผ่านไปนานๆ เข้าคุณอาจ
เก็บไว้ได้หลักพันถึงหลักหมื่นบาทโดยไม่รู้ตัวซึ่งวิธีนี้ค่อนข้างโด่งดังในโลกออนไลน์ มีผู้ที่ทดลองวิธีเก็บ เงินเช่นนี้ จำนวนมากแล้วได้ผล เป็นอีกวิธีออมเงินอีกรูปแบบหนึ่ง
ซึ่งได้ผลดีทีเดียว
6. บันทึกรายรับรายจ่าย
วิธีออมเงินโดย การทำบันทึกรายรับรายจ่าย จะทำให้เห็นว่าค่าใช้จ่ายในแต่ละวันเป็นยังไงบ้าง ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายเกินไปหรือไม่ มีค่าใช้จ่ายส่วนไหนที่ไม่จำเป็นและ
ปรับลดได้ซึ่งตอนนี้มีแอปพลิเคชั่น จัดการรายรับจ่ายเยอะมาก สามารถวิเคราะห์ได้เลยว่า ตอนนี้คุณใช้จ่ายส่วนไหนเยอะ ที่สุดเงินออมคุณ อยู่ในเกณฑ์ดีหรือ อั น ต ร า ย
หลายท่านใช้วิธีนี้แล้วไม่ได้ผลเลยอยากแนะนำ ทริคง่ายๆ คือ จดทุกครั้งที่ใช้ช่วงแรกอาจจะยาก แต่ พ ย า ย า ม ทำให้ครบ 1 สัปดาห์
แล้วการบันทึกรายรับรายจ่ายจะเป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
ขอขอบคุณ t i d l o r