
สิ่งแรก แค่คุยกับคนที่เข้าใจคุณ ในเรื่องที่พวกคุณเข้าใจ คนที่ไม่เข้าใจคุณคุณสามารถมีอิทธิพลต่อเขา
แต่คุณไม่จำเป็นต้องร้องขอโลกใบนี้มีคนมากมาย มีคนแค่ 1% ที่เข้าใจคุณ ก็เพียงพอแล้วเมื่อมารวมตัวกัน
จะมีพลั ง ที่แข็งแกร่ง เลือกคนที่ศีลเสมอกัน ชีวิตก็จะเรียบง่ายและมีความสุขสิ่งที่สอง
เวลาได้ฟังสิ่งที่ไม่เข้าใจและไม่รู้ เราจำเป็นต้องมีหัวใจของการสำรวจและการยอมรับเพราะว่าพวกเขา
อาจจะยืนอยู่ใน ตำแหน่งที่เราไม่เคยไปสิ่งที่พวกเขาเห็นเราไม่เคยเห็น เปิดความคิด เปิดหัวใจยอมรับ
สิ่งที่แตกต่าง เหมือนเด็กๆ ที่สงสัยอย ากรู้อย ากเห็นในชีวิตของเรา ต้องเป็นตัวของตัวเอง
คนที่ชอบคุณยังไงก็ชอบคุณ คุณที่ไม่ชอบคุณก็ปล่อยเขาไว้ ตรงนั้นไม่ต้องโกรธแค้น ไม่ต้องกังวล
ไม่ต้องกลัว ยอมรับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วคุณจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่ างมีความสุขอยู่กับคนแบบไหน
คุณก็จะมีชีวิตแบบนั้นมีคนบอกว่า “อย ากรู้จักใครสักคน ให้ไปดูว่าเพื่อนเขาเป็นยังไง”
คนๆ นึงจะเป็นยังไงครึ่งหนึ่งมาจากความรู้และสังคมที่เขาอยู่ อีกครึ่งมาจากครอบครัวและเพื่อน
และหลายๆ ครั้งที่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นผล มาจากสิ่งชี้นำ พูดง่ายๆ ก็คือ คุณอยู่กับคนแบบไหน
คนก็จะมีชีวิตแบบนั้น
1. อย่ าเสียเวลากับคนที่มีพลั ง งานลบ
นักเขียนคนหนึ่ง กล่าวไว้ว่า “พลั ง งานลบจะทำให้มองเห็นแต่ด้านไม่ดีของคนอื่น
ด่ า ว่าความไม่ยุติธรรมของสังคม พลั ง งานบวกจะบอกคุณหลังคุณพูดจบว่า แม้ว่าจะลำบาก
คุณสามารถพย าย ามจะเปลี่ยนมันได้”บางคนมองโลกในแง่ดี เวลามีคนที่มีพลั ง งานลบรอบๆ ตัว
มากขึ้นเรื่อยๆ คุณจะเห็นว่าเขาจะแสดงอาการเหนื่อยล้าในไม่ช้า นั่นเป็นเพราะอารมณ์ได้รับอิทธิพล
จากคนอื่นได้ง่ายเมื่อต้องอยู่ในบรรย ากาศเช่นนี้อยู่เสมอ จึงมักเกิดภาวะซึมเศร้าได้ง่าย
ถ้าเป็นไปได้ให้หลีกห่างออกจากคนที่คิดลบ นี่เป็นทางเลือกในชีวิตที่คุ้มค่า ในเมื่อทุกคนกำลังยุ่ง
ใครจะมานั่งฟังคุณบ่น
2. เข้าใกล้คนที่ให้พลั ง บวกกับคุณ
เพื่อนแท้สามารถให้กำลังใจซึ่งกันและกัน และมีแพสชั่นในการใช้ชีวิต เหมือนประโยคที่ว่า
“ชื่นชมกันและกัน ให้กำลังใจกันและกัน ผู้คนต้องการมีชีวิตที่มหัศจรรย์ สุดท้ายยังไงก็ต้งอาศัยความแข็งแกร่ง”
เพราะว่าการอยู่กับคนที่ทำให้คุณเปลี่ยนิแปลงไปในทางที่ดี สำคัญมากแต่การอยู่กับคนที่สามารถทำให้ทั้งคู่เ
ปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น สำคัญกว่า
3. คุณต้องมีแหล่งกำเนิดแสงในใจตัวเอง
หากคุณต้องรับผิดชอบ ต่อชีวิตตัวเองและเพื่อน วิธีที่ดีที่สุดคืออย่ าหวังว่าคนอื่นจะสามารถให้แสงสว่างแก่คุณ
แต่คุณต้องมีแหล่งกำเนิดแสงในใจตัวเอง และแผ่กระจ าย ให้คนอื่นเหมือนที่มีคนบอกว่า
“หากคุณพิ ก าร นั่นอาจจะไม่ใช่ความผิด ของคุณ แต่การบ่นว่าสังคมเรียกร้องหาความเมตตาจากคนอื่น
จะไม่เกิดประโยชน์ใดๆ คนเราต้องมองโลกในแง่บวก และทำประโยชน์สูงสุดจากสถานะที่เป็นอยู่
คนที่วิ่งตามผีเสื้อจะได้เห็นดอกไม้สวยงามส่วนคนที่ตามแมลงวันก็จะเห็นแต่สิ่ง ส ก ป ร ก
ขอขอบคุณ kumkoom