
หลายคนผ่านช่วงเวลาชีวิตมาจนอายุ 60 ปี ทำให้รู้สึกว่าเสียดายหลายๆสิ่ง
ที่ได้ทำลงไป และไม่ได้ทำ จึงได้มีการสัมภาษณ์ คนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป
ว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมา รู้สึกเสียดาย และอยากกลับไปแก้ไขเรื่องอะไรมากที่สุด
และคำตอบส่วนใหญ่สามารถสรุปได้ 7 ข้อ ดังนี้
1. ทำในสิ่งที่อยากทำ
ที่ผ่านมาหลายคนมักจะปล่อยโอกาสที่อยากจะทำอะไรหลายๆอย่างไป
เพราะเหตุผลที่ว่า กลัวการล้มเหลว แต่เมื่ออายุ 60 ปี กลับเข้าใจว่า
ความผิดพลาดนั้นไม่ใช่ การล้มเหลว แต่คือการไม่กล้าที่จะลงมือทำ
อะไรต่างหาก
2. เปลี่ยนงาน
ถ้ารู้สึกว่างานนั้น บั่ น ท อ น จิ ต ใ จ เมื่อถึงวัย 60 คนส่วนใหญ่มักจะบอกว่า
ถ้ารู้แบบนี้จะไม่ทนทำงานที่คอย บั่ น ท อ น จิ ต ใ จ ถูกเอาเปรียบจนเกินไป หรือ
อยู่ในสังคมเพื่อนร่วมงาน แ ย่ ๆ อย่างแน่นอน และยิ่งอายุน้อยๆก็
ยิ่งมีโอกาสที่จะมองหางานใหม่ๆที่เข้ากับตัวเอง และทำให้ตัวเอง
มีความสุขในการทำงาน
3. พูดคำว่ารักให้มากขึ้น
ถึงแม้เราจะบอกว่า ความรักให้ดูที่การกระทำ ไม่ใช่คำพูด
แต่การพูดบอกรัก ก็สร้างความมั่นใจให้กับคนรักของเราได้มากขึ้น
เมื่อถึงวัย 60 เราจะเข้าใจได้มากขึ้น และอยากบอกรักพ่อแม่ พี่น้อง
เพื่อนฝูง รวมถึงคนใกล้ตัวเราที่สุดอย่างลูก และภรรยาหรือสามี
4. เป็นตัวของตัวเองในวัยหนุ่มสาว
เมื่ออายุมากขึ้น เราจะเข้าใจชีวิตได้ว่า คนเราเกิดมาแตกต่างกัน
ไม่มีใครเหมือนกันไปหมดทุกอย่าง ดังนั้นเราไม่จำเป็นต้องทำตามคนอื่น
เพียงเพราะสังคมพาทำ ให้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ และเป็นตัวของตัวเองใ
ห้ดีที่สุด ถ้าเรามองย้อนไปดู จะพบว่า คนที่ประสบความสำเร็จ
มีเงินเดือนสูงๆ มักจะเป็นคนที่ทำตัวแตกต่างจากคนอื่น
ไม่ใช่คนที่เป็นเหมือนคนอื่น
5. จะกังวลกับเรื่องต่างๆให้น้อยลง
หลายคนเสียดายเวลาที่ต้องมานั่งกังวลกับเรื่องทุกเรื่อง โดยเฉพาะ
เรื่องเล็กๆน้อยๆที่ไม่เกิดประโยชน์อะไร เพราะสุดท้ายแล้วต่อให้กังวล
เรื่องมันก็เกิดขึ้นแล้วจบไปในที่สุด เพียงแค่จะจบลงแบบไหน
ก็อยู่ที่เราลงมือทำและแก้ไขมันก็เท่านั้น
6. เดินทางให้มากเท่าที่มากได้
ตอนเป็นหนุ่สาวก็อ้างว่าไม่มีเงิน พอเข้าวัยทำงานมีเงิน ก็อ้างว่าไม่มีเวลา
แต่พอแก่ตัวมา มีทั้งเงินมีทั้งเวลา แต่กลับไม่มีแรงจะไปเที่ยวไหนเหมือน
ตอนหนุ่มสาวซะแล้ว ยิ่งอายุมากขึ้นก็ยิ่งเดินทางไปไหนลำบาก
ไม่คล่องตัวเหมือนตอนวัยหนุ่มสาว ที่มีแรงมาก จะทำอะไรก็เต็มที่ได้
และสนุกมากกว่า
7. จะเชื่อฟังพ่อแม่ให้มากกว่านี้
ถึงแม้ว่าหลายคนจะบอกว่า พ่อแม่ไม่ได้รู้ทุกเรื่อง ไม่ได้ถูกต้องเสมอไป
แต่พ่อแม่ก็เป็นคนที่หวังดีกับเรามากที่สุด อยากให้เราเติบโตไปอย่างดีที่สุด
ดังนั้นการรับฟังคำตักเตือนของท่านไว้บ้าง ก็คงไม่เสียหายอะไร จากนั้น
เราค่อยพิจารณาด้วยตัวเราเอง ว่าะเชื่อหรือไม่ และควรทำอย่างไรต่อไป
เพราะสุดท้ายแล้วชีวิตเป็นของเรา มันก็อยู่ที่เราเลือกทำ
สุดท้ายแล้ว ชีวิตคนเราก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย ชื่อเสียงเงินทอง
ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต มันเป็นเพียงแค่ความสุข ชั่ ว ค ร า ว
แต่ความสุขที่แท้จริงนั้นอยู่ที่ใจเรา อย่าไปคาดหวังอะไรกับชีวิตให้มาก
ใช้ชีวิตให้ง่ายเข้าไว้ มีความสุขกับความสำเร็จเล็กๆในแต่
ละช่วงวัยของตัวเองก็พอแล้ว
ตอน 1 ขวบ สามารถเดินได้โดยไม่ต้องให้ใครพยุง นั่นคือ ความสำเร็จแล้ว
ตอน 10 ขวบ จำทางกลับบ้านจากโรงเรียนได้ นั่นคือ ความสำเร็จแล้ว
ตอน 15 ปี มีความสุข เข้ากับเพื่อนๆได้ นั่นคือ ความสำเร็จแล้ว
ตอน 18 ปี สอบเข้า ม ห า วิ ท ย า ลั ย ได้ หรือเรียนต่อสิ่งที่อยากเป็นได้
นั่นคือ ความสำเร็จแล้ว
ตอน 22 ปี เรียนจบจาก ม ห า วิ ท ย า ลั ย นั่นคือ ความสำเร็จแล้ว
ตอนอายุ 27 ปี มีงานทำที่มั่นคง นั่นคือ ความสำเร็จแล้ว
ตอนอายุ 35 ปี มีครอบครัวที่อบอุ่น นั่นคือ ความสำเร็จแล้ว
ตอนอายุ 45 ปี ให้การศึกษาที่ดีแก่ลูกๆได้ นั่นคือ ความสำเร็จแล้ว
ตอนอายุ 60 ปี ยังขับรถ ไปไหนมาไหนเองได้ นั่นคือ ความสำเร็จแล้ว
ขอขอบคุณ bitcoretech