
การรั้งไ ว้อาจหมายถึง ความกล้าหาญ แต่การปล่อยมือและเดินหน้าต่อไปจะทำให้เราเข้มแข็งและมีความสุขได้มากกว่า
และนี่คือ 10 สัญญาณ ที่บ่งบอกว่าเราควรปล่อยเขาไปได้แล้ว
1. เขาอยากให้คุณเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่คุณ
อย่าเปลี่ยนตัวเองเพื่อคนอื่น เราควรยอมสูญเสีย คนที่ไม่ยอมรับในตัวเรา ดีกว่าการอยู่กับเขาต่อไปโดยที่เราไม่ได้เป็นตัวของตัวเอง
เพราะการ รั ก ษ า แ ผ ล ใจนั้นง่ายกว่าการซ่อมแซมตัวตน ที่แตกสลาย นอกจากนี้การถมพื้นที่ในชีวิต ที่คนอื่นเคยอยู่ให้เต็มนั้นง่ายกว่าการปล่อยให้ชีวิตตัวเองว่างเปล่าแบบไร้ตัวตน
2. คำพูดสวนทางกับการกระทำ
หากเป็นเช่นนี้ก็ควรปล่อยมือเขาไปได้แล้ว เพราะการอยู่เพียงลำพังย่อมดีกว่าการอยู่ท่ามกลางเพื่อนๆที่ไม่ดี มิตรภาพที่แท้จริงคือสัญญาใจ ที่มีต่อกันและไม่จำเป็นต้องพูดหรือบรรยายใดๆ ทั้งสิ้น
ความสัมพันธ์ไม่มีวันเสื่อมคลายเพียงเพราะ อยู่ไกลกันและไม่มีวันเปลี่ยนแปลงเพราะกาลเวลาด้วย อย่าสนใจคำพูดของคนอื่น แต่ดูแค่การกระทำก็พอ เพื่อนแท้จะค่อยๆ เปิดเผยตัวเองออกมาในไม่ช้า
3. ต้องบังคับให้คนอื่นมารักคุณ
อย่าลืมว่า เราไม่สามารถบังคับใครให้มารักเราได้ เราไม่ควรอ้อนวอนให้เขาอยู่ต่ออีกเลยถ้าหากเขาต้องการจะไปจริงๆ เพราะรักคืออิสรภาพ อย่างไรก็ตามความรัก ที่จบสิ้นไม่ได้หมายถึงจุดจบของชีวิต
แต่เป็นการเริ่มต้นที่จะเข้าใจว่าบางครั้งความรัก ก็ไม่ต้องการเหตุผล หากเขารักคุณจริงเขาจะไม่มีวันทำให้คุณสงสัยแต่จะพิสูจน์ว่า เขารักคุณมากขนาดไหน
เราอาจต้องใช้เวลาบ้างในการตามหา คนที่ใช่แต่ก็คุ้มค่าที่จะรอคอยไม่ใช่เหรอ
4. สนใจแค่เสน่ห์ทางกาย
ความสวยงามที่มากกว่า สิ่งที่คนอื่นเห็น รวมถึงเป็นสิ่งที่นิยามความหมายในตัวคุณเกี่ยวกับจิตใจที่ลึกซึ้งและทำให้คุณมีเอกลักษณ์เฉพาะไม่เหมือนใคร
ผู้ที่สนใจแค่ใบหน้าหรือรูปร่างที่สวยงาม จะไม่อยู่เคียงข้างคุณตลอดไป ผู้ที่มองเห็นจิตใจอันงดงามของคุณ ต่างหากที่จะไม่มีวันจากคุณไปไหน
5. ทำ ล า ย ความเชื่อใจของคุณ ไม่หยุดหย่อน
รักคือการมอบโอกาส ให้คนอื่นเข้ามา ทำ ร้ า ย คุณ (เมื่อต้องเลิกกัน) แต่คุณเชื่อใจว่าเขาจะไม่ทำ เมื่อใดที่คุณเชื่อใจใครคนหนึ่งแล้วคุณจะได้ผลลัพธ์ 2 อย่าง
คือ ความรักที่มั่นคงตลอดไปหรือบทเรียน ชั่ ว ชีวิต ซึ่งเป็นผลดีทั้งคู่ เพราะในตอนสุดท้ายคุณจะรู้ว่า ใครคือของเทียม ใครคือของแท้ ที่จะยอมเสียสละทุกอย่างให้คุณ เชื่อสิว่าคุณจะต้องประหลาดใจ
6. มองข้ามคุณค่าในตัวคุณ
เมื่อคุณยกใจทั้งดวง ให้กับคนที่ไม่เคยเคารพคุณ บอกเลยว่าคุณไม่มีวันได้ใจส่วนนั้นกลับคืนมาอย่างแน่นอน บางครั้งคุณก็ต้องยอมปล่อยและยอมรับว่าเขาแคร์คุณไม่เท่ากับที่คุณแคร์เขา
ปล่อยให้เขาออกไปจากชีวิต ของคุณเงียบๆ เถอะ เพราะการปล่อยไปย่อมดีกว่าการรั้งเอาไว้ จากนั้นคุณก็จะถามตัวเองว่า “ทำไมฉันไม่ทำให้เร็วกว่านี้”
7. ไม่มีโอกาสพูดคุยกับใจของตัวเอง
บางครั้ง การทะเลาะก็ช่วย รั ก ษ า ความสัมพันธ์เอาไว้ ขณะที่ความเงียบกลับทำให้ทุกอย่างพังทลาย เปิดใจพูดคุยเพื่อที่ตัวเองจะได้ไม่ต้องมาเสียใจภายหลังเถอะ
ชีวิตไม่ใช่การทำให้คนอื่นมีความสุข แต่เกี่ยวกับความซื่อสัตย์ และ แ บ่ ง ปั น ทุกข์สุขร่วมกันต่างหาก
8. มักต้องเสียสละความสุขของตัวเอง
ถ้าคุณยอมให้คนอื่นเข้ามาตักตวง ความสุขออกไปจากชีวิตคุณมากกว่าที่จะเติมเข้ามาให้ล่ะก็..อีกไม่นานชีวิตของคุณ ก็จะขาดดุลโดยไม่ทันตั้งตัว
กว่าจะรู้ก็ปิดบัญชี ไปเสียแล้ว ถ้าความสัมพันธ์ของคุณต้องยอมเสียสละความสุขมากมายขนาดนี้ อยู่คนเดียวดีกว่านะ
9. เ ก ลี ย ด สถานการณ์ปัจจุบัน รวมทั้งงานและกิจวัตรประจำวันด้วย
ยอมล้มเหลวในสิ่งที่คุณรักดีกว่าประสบความสำเร็จ ในสิ่งที่คุณ เ ก ลี ย ด นะ อย่าปล่อยให้คนที่หมดไฟไปแล้วมาพูดให้คุณยุติความฝันตามไปด้วย สิ่งที่คุณทำได้ดีที่สุด ในชีวิตคือการทำตามความฝันของตัวเอง ต้องยอม เ สี่ ย ง อย่ามัวแต่หาวิธีที่ง่ายและปลอดภัย
เพราะคุณกลัวความผิดพลาด ที่อาจจะเกิดขึ้น ไม่เช่นนั้นชีวิตของคุณจะไม่ประสบความสำเร็จเลย แม้ว่าจะยากแต่ถ้าคุณไปถึงเป้าหมายได้บอกเลย ว่าคุ้มค่ากับหยาดเหงื่อและหยาดน้ำตาทุกหยดที่เสียไปอย่างแน่นอน
10. จมอยู่กับอดีต
ท้ายที่สุดคุณจะสามารถเอาชนะ อาการอกหักและลืมสาเหตุรวมทั้งคนที่ทำให้คุณร้องไห้ไปได้ คุณจะรู้ว่าเคล็ดลับของความสุขและอิสรภาพ ไม่ใช่การบังคับหรือแก้แค้นกัน แต่คือการปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปตามธรรมชาติ พร้อมกับเรียนรู้จากประสบการณ์ต่างๆ
สิ่งสำคัญที่สุด ไม่ใช่บทเรียนแรกในชีวิต แต่เป็นบทเรียนสุดท้ายในชีวิตต่างหาก ดังนั้นจงปล่อยอดีต ให้ผ่านไปและปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระ รวมทั้งเปิดใจกว้างเพื่อรอรับประสบการณ์ และโอกาสใหม่ๆที่จะผ่านเข้ามา
ขอขอบคุณ t o d a y.l i n e.m e