
คุณเคยยืนทะเลาะกับแฟนก่อนเข้าโรงหนัง แล้วจบลงด้วยต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับบ้านแทนที่จะได้ดูหนังกันดีๆ บ้างมั๊ย ? คุณเคยพยายามที่จะบอกกับแฟนคุณว่าคุณรู้สึกยังไง แล้วพูดยังไงเขาก็ไม่เข้าใจกลับขึ้นเสียงกันไปใหญ่จบลงที่ต่างคนต่างกระแทกหูโทรศัพท์กันไป แล้วคุณก็กลับไปนอนร้องไห้บ้างมั๊ย?
คุณเคยทะเลาะเรื่องหนึ่งกับแฟน แต่สุดท้าย เขากลับขุดทุกสิ่งทุกอย่างอีกร้อยแปดพันเรื่องขึ้นมาจบลงเรื่องที่ทะเลาะ กลับกลายเป็นอีกเรื่องหนึ่งไปเลยบ้างไหม ? คุณเคยทะเลาะกับแฟนลั่นบ้าน จบลงด้วยประโยคว่า “เลิกกันไปเลยดีกว่า” มั๊ย ?
คุณเคยไปต่างจังหวัดกับแฟนทะเลาะกันใหญ่โต คุณน้อยใจ ส า ร พัด จบลงด้วย คุณเก็บกระเป๋า จับรถกลับทันทีมั๊ย ? เคยมั๊ย .. ทั้งที่รักกันอยู่แต่ทำไมรู้สึก โหวงๆ.. อึดอัด.. บางคน.. แทบจะทะเลาะกัน..ทุกวินาที.. ถ้าไม่รู้จักปรับเข้าหากัน..
สุดท้ายก็ต้องเลิกกันไปในที่สุด..เวลาเจอคนดีๆ สักคนก้าวเข้ามาในชีวิต.. คุณก็คงแอบฝัน.. ไว้เหมือนกันขอให้เรา กับเขารักกันไปนานๆ.. จะกี่เดือนกี่ปีผ่านไปไม่รู้แต่รักของเราจะยังเหมือนเดิม..
แน่ล่ะ.. มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก.. แต่ก็ไม่ได้ยากซะจนเป็นจริงไม่ได้ แค่เรารู้จักดูแลความรักดีๆ.. คุณก็จะมีความสุขกับความรักที่เป็นอยู่มากขึ้น ยอมรับ.. ในความแตกต่าง คนเราไม่มีใครคิดเหมือนกันได้ทุกอย่าง.. ในความเหมือนก็ต้องมีความแตกต่าง
เขาอาจคิดไม่เหมือนเราเป็นเพราะ เขามีลักษณะแตกต่างกันบางคนใช้ความคิดเป็นหลักบางคนใช้ความรู้สึกตัดสิน …บางคนใช้สัญชาตญาน เพราะฉะนั้นทุกคนมีความแตกต่างกัน เราต้องรู้จักเรียนรู้และยอมรับ ความแตกต่างตรงนี้ให้ได้
โดยเฉพาะยอมรับข้อเสียของกันและกันได้ ถ้าเรายอมรับได้เรื่อง ร้ า ยๆ ก็ไม่เกิด เพราะจริงๆ แล้วคนเราไม่เปลี่ยนอยู่แล้ว อย่าคาดหวังว่าเขาจะเปลี่ยนให้เรา ได้ไม่งั้นจะทำให้เราเสียใจ ทุกข์ใจเสียเปล่าความเข้าใจเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
เพราะทั้งสองคนมาจากต่างครอบครัว ถูกเลี้ยงดูมาต่างกัน แล้วถ้าเราเข้าใจเขา เขาเข้าใจเราก็ทำให้เราไม่ทะเลาะกัน บางครั้งอาจจะมีเรื่องให้เราเซอร์ไพรส์ทั้งดีและ ร้ า ย แต่ถ้าเรารู้ว่าทำไมเขาทำแบบนี้เป็นแบบนี้เพราะอะไร รู้ที่มาที่ไปของพฤติกรรมของเขา เราก็จะไม่โกรธ..
และในขณะเดียวกันเขาเอง ก็ควรจะเข้าใจตัวเราให้มากๆ ด้วย ต้องเป็นความเข้าใจที่เกิดจากคนสองคนต้องรู้จัก สังคมของเขา และให้เขารู้จักสังคมของเรา โดยเฉพาะคนสนิทที่อยู่แวดล้อมกันไม่ว่าจะเป็นสังคมเพื่อน เพื่อนร่วมงานครอบครัว
ควรทำความรู้จักไว้ ต่างคนต่างจะได้รู้ว่าสังคมของกันเป็นอย่างไง ถ้าเราไม่สนใจเลย เราไม่รู้จักเพื่อนเขาอาจทำให้ความรู้สึก ระหว่างกันมันขาดๆ หายๆ ไป เวลาคุยกันเรื่องเพื่อนก็มักจะต่อกันไม่ค่อยติดเวลาเขาไปไหนกับเพื่อนก็ไม่อยากให้เราไปด้วย
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะต้องติดตามกันไปทุกครั้ง ไม่งั้นจะทำให้เขาอึดอัดแทนพอคบกันไปได้ไม่เท่าไหร่ เขาก็จะเริ่มอยากกลับไปเจอเพื่อน ไม่ใช่ว่ารักคุณน้อยลง ยังซื่อสัตย์ ยังเป็นห่วงอยู่ แต่บางที เวลาอยู่ด้วยกันเยอะเกินไป เราไม่รู้จะทำอะไร แล้วเราก็อยากกลับไปใช้ชีวิตอีกแบบบ้าง
เวลาที่เขาอยู่กับเพื่อน มันมีอีกแง่มุมนึงที่ไม่เหมือนอยู่กับคุณ แล้วเวลาอยู่กับคุณก็ไม่เหมือนมุมที่อยู่กับเพื่อน ทั้งสองมุมแทนกันไม่ได้ เขาจะมีเส้นแบ่งตรงนี้อยู่ คุณเองก็ควรมีเหมือนกัน
เพราะเวลาที่อยู่กับเพื่อน เราจะเป็นธรรมชายติมากๆ บางเรื่องคุยกับเพื่อนแล้วเข้าใจได้มากกว่าอย่าไปน้อยใจเลยเวลาที่… เขาอยู่กับเพื่อน แต่ละคนต้องมีอิสระระหว่างกัน… ต่างฝ่ายต่างต้องมีสเปซส่วนตัว เพราะคนเรามีความสนใจหลากหลาย
ถ้าเราไม่ปล่อยให้เขาเป็นอิสระเวลาอยู่กันไปนานๆ ก็จะทำให้ชีวิตเริ่มเบื่อ เซ็ง และอึดอัดมากขึ้นเรื่อยๆ เราต้องรู้จักหาความพึงพอใจในชีวิตของตัวเองด้วยอย่าไปคาดหวังว่าอีกคนบจะมาเติมเต็มส่วนที่ขาดให้กับเรา
คิดแค่ว่าเรามีเขาอีกคนเป็นเพื่อน เพื่อนที่รักกัน ดูแลกันก็พอแล้ว อย่างอื่นถ้าเราอยากได้ อยากเป็นอะไร ก็ต้องหาเอง ไม่งั้นเราก็จะคาดหวัง และอาจทำให้เราเสียใจเริ่มต้นจากตัวเองก่อน.. มองเห็นข้อบกพร่องของตัวเอง และยอมรับข้อบกพร่องของตัวเราเอง ต้องรู้ว่าตัวเองเป็นคนแบบไหน
ถ้าเราเป็นหงุดหงิดง่าย บางครั้งถ้าเขาทำอะไรไม่เป็นไปตามที่เราคิดก็จะทำให้หงุดหงิดใจ มานั่งนึกว่าทำไม เขาไม่ได้อย่างใจ ทำไมเขาไม่เข้าใจถ้าเราเข้าใจว่าตัวเองเป็นแบบนั้น เราต้องยอมรับว่าบางครั้งเราก็ทำอะไร แ ย่ ๆ ได้ เขาเองก็เป็นแบบนั้นได้เหมือนกัน
ถ้าเขาอภัยให้เราได้แบบไม่มีเงื่อนไข เราอภัยให้เขาบ้างได้หรือเปล่า? อย่างถ้าเราเป็นคนขี้ระแวง บางครั้งเราก็ไปแอบฟัง เขาคุยโทรศัพท์ ถ้าเรามีสติเราจะเริ่มรู้สึกว่าเราระแวงไปเอง บางทีเราเอาเรื่องมา ปะติดปะต่อแล้วก็คิดไปเอง ทั้งๆที่ในเป็นจริงอาจจะไม่มีอะไร
แต่ความระแวงนั่นแหละจะทำให้เกิดเหตุการ์ณ ร้ า ยๆ ตามมาได้.. ความไว้ใจกับความ โ ง่.. มันอยู่ใกล้กันก็จริง.. แต่ก็ไม่ได้แปลว่ามันจะแยกกัน ไม่ออกเมื่อใดที่คุณโกรธ.. คุณต้องแลกมันกับเวลาที่คุณจะได้อยู่ด้วยกันกับเขา..อย่างมีความสุข
แต่เมื่อใดที่คุณให้อภัย….คุณจะได้คนใกล้ชิดของคุณกลับมาต้องไม่เอาเรื่องงานมาปนกับเรื่องส่วนตัวไม่เอาเรื่องเครีย ดๆ มาโยนใส่กัน.. เวลาเจอกันก็จะเล่าแต่สิ่งดีๆ ให้เขาฟัง
หรืออาจปรึกษาเขาว่าควรทำอย่าไงดี ไม่ใช่เจอกันก็บ่นๆๆๆ ใส่เขา จะทำให้เขารู้สึกว่าเจอทีไร ก็มีแต่เรื่อง เ ค รี ย ด ๆ คุยกันเรื่องสนุกๆ จะทำให้เขาสุขใจสบายใจ วิธีนี้จะทำให้เขาอยากเจอเรา อยากมาหาเรา เพราะรู้ว่าอยู่กับเราแล้วมีความสุขเขาก็ไม่อยากจะไปไหน ให้คิดตลอดว่าชีวิตมันสั้น…
ทำไมเราไม่ใช้ชีวิตที่เหลือให้มีความสุขรู้จักดูจังหวะ ดูสถานการณ์ดูอารมณ์ของอีกฝ่ายให้ดี อย่างถ้าเขาทำงานมาเครีย ดๆ แล้วเราเองก็มีเรื่อง เ ค รี ย ด อยู่ เราก็ต้องดูอารมณ์เขาหน่อย
อย่าเพิ่งไปคุยเรื่อง เ ค รี ย ด ๆ กับเขา ถ้าเขาร้อนมา เราก็ต้องเย็นเข้าไว้เอาใจเขาหน่อย ดูก่อนว่าเขาหิวเหนื่อย เ ค รี ย ด หรือเปล่า ถ้าใช่ ทำอะไร หาอะไรที่เขาชอบ พอเขาอารมณ์ดีเราค่อยคุยกับเขา
แต่ถ้าวันนั้นเขาปกติ ก็ต้องดูอารมณ์ว่าควรจะพูดควรจะฟังตอนไหนรู้จักให้อภัย เพราะหลังจากอยู่ด้วยกันแล้ว.. บางครั้งต่างฝ่ายต่างทำผิด ต่างฝ่ายต่างก็ต้องรู้จักให้อภัยกัน
อย่ามองในจุดเสียของเขาให้มาก.. พยายามมองแต่แง่ดีๆ.. ใช้เหตุผลยอมรับที่เขาเป็นสัก 70 เปอร์เซ็นต์ แล้วเวลาที่เขาทำผิดอย่ามองว่าเป็นความผิดของเขาคนเดียว บางทีเราอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ผลักดันให้เขาทำผิดได้เหมือนกันเราต้องมีเหตุผล และเขาเองก็ต้องดีจริงๆ เหมือนกัน
เราถึงให้อภัยเขาได้.. บางครั้งก็ต้องรู้จักยอมๆกันบ้างเวลามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นก็ไม่ใช่ว่าต้องตัดสินปัญหาแบบคนละครึ่งทางเป๊ะๆ บางครั้งเพื่อหลีกเลี่ยงการทะเลาะกันก็ต้องยอมๆ กันบ้าง แลกกับความสบายใจ บางครั้งเรายอม บางครั้งเขายอมจะได้ไม่มีอะไรที่ขัดแย้งกันเอาใจเขามาใส่ใจเรา
หลายๆ เรื่องเกิดจากคนสองคน ทั้งเรื่องงาน เพื่อน ครอบครัว เราต้องมองว่าถ้าเราทำแบบนั้นเขารู้สึกอย่างไงถ้าเราทำอะไรไม่ดีออกไป เราก็ต้องเข้าใจว่าทำไมเขาถึงโกธร.. ไม่ได้มองตัวเองเป็นศูนย์กลางไปซะทุกอย่าง…
ต้องยอมรับธรรมชาติของอีกฝ่ายด้วยหัวใจบริสุทธิ์ และปล่อยวาง มองหน้าเขาอย่างมีเมตตา พยายามทำร้อนให้กลายเป็นเย็น เรื่องใหญ่ให้เป็นเรื่องเล็ก
เมื่อเปิดใจยอมรับก็จะเข้าใจ เมื่อเข้าใจ แม้เขาจะไม่ได้ดั่งใจ ก็คิดซะว่าเราเองก็คงมีเรื่องไม่ได้ดั่งใจเขาเช่นกัน ดูแลความรักของคุณกับเขา.. เพราะอย่างน้อย.. คุณก็ยังโชคดี.. ที่มีโอกาสได้เจอเขา..แล้วเพราะ..คนบางคน.. ไม่มีแม้แต่โอกาส.. จะได้อยู่ใกล้ๆ กับคนที่รัก…
ขอขอบคุณ p a n t i p