Home ความรัก คบกันมานาน..แต่เริ่มไม่แน่ใจว่า “เรายังรักกันอยู่ไหม”

คบกันมานาน..แต่เริ่มไม่แน่ใจว่า “เรายังรักกันอยู่ไหม”

5 second read
0
0

ยังไม่แน่ใจเหมือนกัน ว่าเรายังรักกันอยู่ไหม ครั้นจะถามไปตรงๆ ก็ไม่กล้า กลัวเขาจะหาว่าเราไม่มั่นใจในตัวเขาเสียอีก แล้วจะทำยังไง ถึงจะรู้ได้ว่าความรักระหว่างเราแปรเปลี่ยนเป็นอื่นไปหรือยัง

หันมาลองสังเกตพฤติกรรมเล็กน้อยๆ เหล่านี้ ที่คุณและเขาทำร่วมกัน ดูซิว่ามันต่างไปจากเดิมหรือไม่ และมีสัญญาณใดที่จะเป็นตัวบ่งชี้หรือเป็นลางบอกเหตุ ให้คุณรับรู้ได้ว่า ความรักหวานชื่นที่เคยมีให้กันกำลังจืดชืด

และจืดจางไม่หวานเหมือนเก่าสำรวจตรวจตราอาการ ที่เขาคนนั้นปฏิบัติต่อคุณในขณะนี้แล้วกันว่า เขาเข้าข่ายคนรักที่กำลังเบื่อหน่ายแฟนตัวเองอยู่รึเปล่า

1. การไปทานอาหาร

เริ่มต้นจากว่า เดิมทีคุณไปทานอาหารด้วยกัน ก็เพราะอยากเจอหน้าค่าตาแฟนจะได้เจริญอาหาร เรียกว่ากินไป สบตากันไป อย่างนี้เรียกว่าได้ สองทาง ทั้งอิ่มท้องและอิ่มอกอิ่มใจ

แต่หากวันใดที่การไปทานข้าวด้วยกัน เกิดขึ้นจากความรู้สึก ที่ว่าทำไปตามหน้าที่หรือเป็นสิ่งที่ต้องทำเป็นประจำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นั่นแหละคือจุดกำเนิดของการปฏิบัติต่อกันแบบขอไปที

2. ไม่สนใจใคร่รู้เรื่องราวส่วนตัวของอีกฝ่าย

เมื่อใดที่คุณเริ่มไม่รู้สึกว่าอยากจะรู้หรือใส่ใจ เรื่องราวความเป็นไปที่เป็นส่วนตัวของอีกฝ่ายหนึ่งเลย ไม่ว่าจะเป็นชีวิตความเคลื่อนไหวในเรื่องต่างๆ

ทั้งด้านการทำงาน ครอบครัว ญาติพี่น้อง ไม่มีการถามไถ่ถึงสารทุกข์สุขดิบกันเลยทั้งๆ ที่เป็นคู่รัก เป็นแฟนกัน

3. ตั้งเงื่อนไขวางข้อแม้สารพัด

พวกที่ชอบตั้งกฎกติกา เวลาจะทำอะไรให้กันทั้งที ก็ต้องมีข้อแม้ต่างๆ นานาสารพัด เพื่อมาแลกเปลี่ยนกันไม่ให้เสียผลประโยชน์หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเกิดการเสียเปรียบกัน

อย่างนี้ถือว่าจุกจิกเกินไปเพราะประสาคนรักกันเขาไม่หยุมหยิม คิดมากกันละเอียดยิบ ชนิดที่ฉันให้เธอเท่านั้น เธอก็ต้องให้ฉันกลับมาเท่ากับที่ฉันให้ไป

4. ละเลยวันพิเศษ หรือเทศกาลวันสำคัญ

แม้จะไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด แต่เรื่องแบบนี้คงต้องมีบ้าง ยิ่งวันพิเศษเล็กๆ น้อยๆ หรือช่วงเทศกาลสำคัญทั้งทีก็ควรจะมีหวานให้กันสักหน่อยไม่ใช่มาออกตัวว่าลืมหรือจำไม่ได้

เอาเป็นว่าไม่จำเป็นถึงกับต้องหาของขวัญล้ำค่า ให้ก็แต่ขอแค่ไม่ลืมกัน และจำวันเกิด หรือเอ่ยปากพูดคำหวานให้เขารู้ว่าไม่ลืมวัน สำคัญของหวานใจ แค่นี้ก็ปลื้มแล้ว

5. ไม่ค่อยโทรศัพท์ถึงกันเหมือนเก่า

ทำไมมือไม้มันอ่อนไปหมดก็ไม่รู้ จะหยิบโทรศัพท์ มากดหาหวานใจทั้งทีก็จำเบอร์ไม่ค่อยได้ ไม่มีอารมณ์อยากที่จะโทรหา เมื่อใดที่อาการโทรศัพท์ลิซึ่มจืดจาง

ปริมาณความถี่ที่กริ๊งกร๊างหากันลดน้อยลง จนน่าใจหายหรือแค่โทรมาอย่างเสียไม่ได้ เพราะกลัวจะถูกต่อว่าที่ไม่ยอมโทรถึงกัน อาการเช่นนี้ถือว่าส่อแววเซ็งแล้วแหละ

6. เฉยชา หากปฏิกริยาอาการเมินเฉย เฉยชา ไม่กระตือรือล้นใส่ใจกันเหมือนเก่า

ประเภทที่แต่ก่อนตอนทะเลาะกัน ก็จะเถียงกันคอเป็นเอ็นเพื่อเอาชนะกันให้ได้ แต่ตอนนี้เริ่มเงียบเฉยชา

และปล่อยให้อีกฝ่ายกลายเป็น บ้ า เป็นหลังอยู่เพียงคนเดียว นั่นแหละใช่เลยที่เขาเริ่มถอดใจไปกับความรัก

7. นัดเจอน้อยครั้ง นานๆ เจอกันที คนรักกันชอบกันก็มีแต่ต้องอยากเจอหน้า

วันหยุดเมื่อไหร่ ก็ต้องนัดออกมาเจอกัน หรือไปเที่ยว ดูหนัง ฟังเพลงกันทั้งนั้น แต่ถ้าเกิดถึงวันหยุดแล้วเขากลับมีความรู้สึกว่าอยากอยู่กับบ้านมากกว่าที่จะออกไปเจอหน้าหวานใจ

บ่นพิรี้พิไรว่าขี้เกียจออกจากบ้านเพราะรถติด อ้างเหตุสารพัดเพื่อตัดบท ที่จะไม่ต้องออกไปพบเจอกัน สัญญาณรัก อั น ต ร า ย กำลังเข้าใกล้คุณแล้วจริงๆ

อาการเหล่านี้ อาจเริ่มเกิดเป็นพักๆ เท่านั้น ถ้าคุณเริ่มมีอาการที่ว่ามาบ้างแล้ว แม้แต่ข้อเดียว ขอให้รีบเปลี่ยนแปลงมันซะ ถ้าคุณยังอยากที่จะ รั ก ษ า สัมพันธ์รักครั้งนี้ของคุณอยู่

แต่ถ้าคุณเริ่มเบื่อของเก่า อยากลองรสชาติใหม่ๆ ดูบ้าง ก็คงต้องเปิดอกพูดคุยกันให้รู้ถึงความรู้สึก ว่ายังอยากจะคบหาดูใจกันต่อไปอีกหรือไม่หรือต่างฝ่ายต่างอยากเปิดโอกาสให้ได้มีโอกาสพบเจอคนใหม่ๆ ดูบ้าง

เอาเป็นว่า ถ้ารักจืดก็อย่าลังเลที่จะพูดออกไปเพราะ ถ้าปล่อยปัญหารักร้าวไปมากกว่านี้ คุณเองอาจจะเป็นฝ่ายที่รู้สึกผิดที่ยังรั้งตัวเขาไว้ ทั้งๆ ที่ความรักมันไม่เหมือนเก่าอีกต่อไปแล้ว

ขอขอบคุณ M e e m o d e l

Load More Related Articles
Load More By verrysmiles smiles
Load More In ความรัก

Check Also

6 คำถามดีๆ ที่พ่อแม่ควรถาม ก่อนลูกจะนอน

หลังจากเด็กๆ ทำกิจกรรมมาทั้งวัน เวลาพักผ่อน ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ จะสามารถแส…