
1.ตัดสินคนอื่น รวมถึงตัวเอง
การเอาแต่โทษ คนนั้น คนนี้ รวมถึงโทษตัวเอง เป็นหนทางตัดตรงไปสู่ชีวิตที่ไม่มีความสุขนักจิตวิทย าบอกกับเราว่า การคิดลบและการตัดสินคนอื่น เป็นอุปสรรคชิ้นโตที่คอยขัดขวางประสิทธิภาพในการทำงานของเรา
ทางแก้คือ เราต้องเลิกโฟกัสแต่จุดอ่อนของตัวเอง และหันมาพัฒนาจุดเด่นของเราดีกว่า มันก็ไม่ได้ผิดที่เราจะวิพากษ์วิจารณ์ หรือไม่เห็นด้วยกับความคิดของใครๆ แต่ถ้าเรายังเก็บ เรื่องเหล่านั้น มาใส่ใจ สุดท้ายคนที่ต้องอึดอัด จนไม่มีความสุข ก็คือเรานั่นเอง
2.เสียใจซ้ำๆ กับเรื่องในอดีต
ใครๆ ก็ต้องเคยทำผิด แต่อย่าปล่อยให้ความผิด ในอดีตเหล่านั้น วนเวียนรบกวนจิตใจเรา สิ่งดีที่สุดที่เราทำได้ ก็คือ เรียนรู้จากข้อผิดพลาดนั้น
หรือหากเรารู้สึกว่าตัวเองทำให้ใครสักคนรู้สึก แ ย่ ก็ขอโทษแล้วปล่อยวาง ความรู้สึกนั้นไป อย่าเอาแต่รู้สึกผิดและเสียใจ ซ้ำๆ กับเรื่องราวที่ผ่านไปแล้ว
3.กังวล หรือกลัวสิ่งที่ไม่คุ้นเคย
บางครั้ง เราก็กังวลหรือกลัว สิ่งที่เราไม่คุ้นเคย แต่อย่าลืมว่า มีสิ่งดีๆ หลายอย่างที่เราจะไม่มีวันได้สัมผัสหรือเรียนรู้ หากเราไม่ก้าวออกจาก สถานการณ์ที่เคยชิน
หากอย ากจะลองทำสิ่งใหม่ๆ แต่ยังลังเลอยู่ละทิ้งความลังเล แล้วลองทำดูสักตั้งไปเลยค่ะ
4.เห็นคนอื่นได้ดีไม่ได้
พื้นฐานชีวิตของเรา ไม่เท่ากัน การรู้สึกอิจฉา ที่คนอื่นๆ ชีวิตดีกว่าเรา คือการ บั่ น ท อ น ความสุขของตัวเองโดยไม่เกิดประโยชน์ใดๆ คนเดียวที่เราควรนำมาเปรียบเทียบ คือตัวเราในวันก่อนๆขอให้นึกไว้ว่า ชีวิตของคนบางคนที่เหมือนจะราบรื่นเฟอร์เฟ็คนั้น ไม่ได้เป็นอย่างที่เราเห็นตลอดเวลา
ลองเปลี่ยนความรู้สึกแ ย่ ๆ เวลาที่เห็นคนอื่นมีชีวิตดีๆ มาแสดงความยินดีกับความสำเร็จของเขา ดูบ้างมองหาแรงบันดาลใจจากชีวิตของเขา และเรียนรู้จากเรื่องราวนั้น
5.ชอบควบคุมชีวิตคนอื่น
การเอาแต่สั่ง ให้คนต่อใครทำอะไร เพียงเพราะเรารู้สึกว่ามันไม่ได้อย่างใจ หรือคิดว่าตัวเองเท่านั้น ที่เป็นฝ่ายถูกเป็นต้นเหตุของความสัมพันธ์ที่รอวันร้าวฉาน แถมยังมีแต่จะเพิ่มความ เ ค รี ย ด ให้คนอื่นๆ รวมถึงตัวเอง ควรรู้ว่าเราไม่สามารถควบคุมอะไรได้ทุกอย่าง
แบ่งความรับผิดชอบให้คนอื่นบ้าง อย่าแบกทุกอย่างไว้เพียงคนเดียว หากรู้สึก เ ค รี ย ด กังวลที่อะไรๆ ก็ไม่เป็นไปตามที่คิดลองหาทางออก ด้วยการผ่อนคลายอารมณ์ ไปฟังเพลง หรือทำกิจกรรมผ่อนคลายอย่างอื่นแทนค่ะ
6.ติดโซเชียลมีเดีย
ถือเป็นอาการยอดฮิต ในยุคนี้ไปซะแล้ว สังเกตตัวเองกันนิด ตอนตื่นนอนเช้าๆ เราหยิบมือถือ มาดูเป็นสิ่งแรกๆ เลยใช่หรือไม่ คนที่ติดโซเชียล มักจะนึกถึงแชทที่ค้างคา การ รี ท วิ ต ข่าว ส า ร คอมเม้น รวมไปถึงยอดไลท์ พูดได้ว่าสิ่งเหล่านี้ ยึดครองพื้นที่ในหัวเราไปแล้ว
แทนที่จะไปทำเรื่องอื่นที่สำคัญกว่าหากเรายังต้องทำงาน บนโซเชียลเวิร์ด เราอาจจะต้องปรับตัวด้วยการปิด notifications ไปบ้างและกันมา ให้เวลากับสิ่งที่ชื่นชอบ เพื่อนและคนรอบข้าง
7.ติดความเพอร์เฟ็ค
การมีวินัยและ เคร่งครัดกับตัวเอง เป็นสิ่งที่ดีแต่ไม่ควรบีบคั้นตัวเองเพื่อความเพอร์เฟ็คมากเกินไป ไม่มีอะไรที่สมบูรณ์พร้อมทุกอย่าง ทั้งเรื่องชีวิต เรื่องงาน ความรักหรือคนรอบข้าง พ ย า ย า ม ทำให้ดีที่สุด
แต่อย่ายึดถือว่าทุกอย่าง ต้องออกมาสมบูรณ์ บางครั้ง สื่อต่างๆ ก็เสนอภาพความสมบูรณ์ แบบให้เรามากจนเกินไปอย่าลืมว่าในชีวิตจริงมีขึ้นก็มีลง หากเราเข้าใจจุดนี้ เราจะใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นค่ะ
8.กดดันจากความคาดหวังของคนรอบข้าง
แบบเดียวกับข้อที่ว่าด้วย ไม่มีสิ่งไหนเฟอร์เฟ็ค เรามีสิทธิ์ที่จะใช้ชีวิตในแบบที่เราคิด เรารับฟังสิ่งที่คนรอบข้าง เช่นเพื่อน คนรักหรือครอบครัวบอกได้ แต่การตัดสินใจ
สุดท้ายเป็นของเรา หยุด เ ค รี ย ด กับความคาดหวังของสังคมได้จะดีที่สุด
9.ติดอยู่ในความสัมพันธ์แ ย่ ๆ
การตัดใจปล่อยมือ จากความสัมพันธ์ที่มีร่วมกับใครสักคนอาจเป็นเรื่องย าก แต่ใครก็ตามที่อยู่เคียงข้าง เราควรจะเป็นคนที่หยิบยื่นความรู้สึกดีๆ และความสุขมาให้เรา
หากวันหนึ่ง เขาทำให้เรา เ จ็ บ ช้ำ และผิดหวังซ้ำๆ เราก็ควรเรียนรู้ที่จะหยุดความสัมพันธ์นั้นเสีย
ขอขอบคุณ g o o d l i f e u p d a t e