Home ข้อคิดดีๆ 9 สิ่งที่พ่อแม่ทำ ให้ลูกเป็นเด็กไม่รู้จักโต

9 สิ่งที่พ่อแม่ทำ ให้ลูกเป็นเด็กไม่รู้จักโต

8 second read
0
0

อย่างไรก็ดี เพราะพ่อและแม่คือคนที่รักและหวังดีกับลูกมากที่สุด แต่ในบางครั้ง

ความหวังดีของคุณอาจย้อนกลับมา ทำ ร้ า ย ลูกอย่างไม่ได้ตั้งใจซึ่ง

กว่าคุณจะรู้ตัวก็อาจสายเกินแก้แล้วโดยเฉพาะ 9 พฤติกรรมต่อไปนี้

ที่พ่อแม่ควรเลิกทำถ้าอยากให้ลูกเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่ดี

1. ปลุกลูกไปโรงเรียนตอนเช้าทุกวัน

เรียกได้ว่ากิจวัตรประจำวันของคุณ แม่ที่ต้องทำทุกเช้า คือการปลุกลูก

เพื่อไปโรงเรียน ซึ่งความจริงแล้วคุณพ่อคุณแม่ควรฝึกลูกให้ตั้ง

นาฬิกาปลุกและจัดสรรเวลานอนให้เหมาะสมเพื่อให้เขาได้เรียนรู้

ที่จะจัดการกับตารางชีวิตของตัวเอง

2. ทำ อ า ห า ร เช้าหรือ อ า ห า ร กลางวันให้

คุณแม่หลายคน อาจเป็นห่วงว่า ลูกจะทาน อ า ห า ร ไม่อิ่มและได้รับ

ส า ร อ า ห า ร ไม่ครบถ้วน จึงต้องเตรียม อ า ห า ร ให้ลูกทุกวันถ้าคุณ

อยากให้ลูกโตเป็นผู้ใหญ่ซะที คุณก็ควรให้เขาทำ อ า ห า ร เองค่ะ

ถ้าเขาทำไม่เป็นคุณแม่อาจจะต้องสอนลูกก่อนสักหน่อย

3. นำของที่ลูกลืมไปให้ถึงที่โรงเรียน

การที่ลูกโทรมา เพื่อบอกให้คุณพ่อคุณแม่นำเอาสิ่งของที่ลืมไปส่งที่โรงเรียน

โดยที่คุณก็ทำตามที่ลูกสั่งทุกครั้ง ซึ่งนั่นอาจทำให้ลูกกลายเป็นเด็กที่

ไม่รอบคอบได้ดังนั้น เมื่อลูกโทรมาเพื่อให้ คุณพ่อคุณแม่ทำแบบนั้นอีก

โดยที่ของชิ้น นั้นไม่ได้มีความสำคัญถึงขั้น ค อ ข า ด บ า ด ต า ย อะไร ก็

ควรบอกปัดเพื่อให้ลูกรู้จักมีความรอบคอบมากขึ้นและตรวจความเรียบร้อย

ของสิ่งของ เครื่องใช้ ที่ต้องเอาไปโรงเรียนก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง

4. ซักเสื้อผ้าให้ลูก

เมื่อลูกโตพอ ที่จะทำงานบ้านได้แล้ว แต่คุณพ่อคุณแม่ไม่เคยฝึกหรือ

ให้ลูกได้ทำด้วยตัวเอง และการที่คุณแม่ซักเสื้อผ้าให้ลูกทุกวันอาจทำให้

เด็กเคยตัวและเป็นคนไม่มีวินัยในตัวเองหรือความรับผิดชอบ

ดังนั้น หากเด็กอยู่ในวัยที่พอเรียนรู้และทำอะไรด้วยตัวเองได้แล้วคุณแม่ก็

ควรสอนลูกถึงวิธีการใช้เครื่องซักผ้าหรือการซักผ้าด้วยมือ

เพื่อที่เขาจะได้ฝึกทำมันด้วยตัวเอง

5. ไม่ยอมปล่อยให้ครูมาว่ากล่าว ตักเตือน หรือตีลูก

ถ้าลูกมา ฟ้ อ ง คุณว่าถูกครูตีหรือว่ากล่าวตักเตือน ซึ่งนั่นอาจทำให้คุณพ่อคุณแม่

มีอาการหัวร้อน และพร้อมจะไปเคลียร์กับครูที่โรงเรียนแต่เรื่องนี้เป็นสิ่งที่

อยากบอกว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่ต้องใจเย็นๆ ก่อนและอาจต้องสอบถามลูก

ถึงสาเหตุที่ครูทำเช่นนั้น ซึ่งหากลูก ทำความผิดจริงๆและการลงโทษ

ไม่ได้ ร้ า ย แ ร ง จนถึงขั้น เ ลื อ ด ต ก ย า ง อ อ ก คุณพ่อคุณแม่ก็

ไม่ต้องถึงขั้นไปคุย กับคุณครูเองที่โรงเรียนควรปล่อยให้เป็นหน้าที่

ของคุณครูที่ต้องอบรมสั่งสอนลูกของเราอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ควรทำคือ

ให้คุณพ่อคุณแม่สอนลูกแทนว่าจะต้องทำตัวอย่างไรเพื่อ

ไม่ให้โดนครูว่าหรือตีอีก

6. ยุ่งกับการเรียน

การเป็นห่วงสนใจ ในเรื่องเรียน หรือความเป็นอยู่ที่โรงเรียนของลูก

ไม่ใช่เรื่องผิดหรอกที่ แต่การที่คุณพ่อคุณแม่ไปบงการหรือกำหนด

เส้นทางการเรียนโดยไม่ให้เขามีสิทธิคิดหรือตัดสินใจด้วยตัวเอง

นั่นอาจจะทำให้ลูกของคุณไม่โตเป็นผู้ใหญ่เสียที

7. ทำการบ้านให้

สำหรับคุณพ่อคุณแม่คนไหนที่ชอบทำการบ้านให้ลูกเป็นประจำ

ควรเลิกทำแบบนี้ปอย่าง เ ด็ ดข า ด เพราะสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่นี้

จะทำให้ลูกไม่ได้ฝึกคิดหรือเรียนรู้อะไรเลย ซึ่งถ้าไม่อยากให้ลูกเติบโต

มาแบบไม่มีความรู้ใน ส ม อ ง ก็อย่า ทำ ร้ า ย ลูกทางอ้อมแบบนี้เลยค่ะ

8. ยอมให้ลูกหยุดเรียน

เพราะเด็กบางคนอาจมีอาการ ป่ ว ย การ เ มื อ ง เนื่องด้วยสาเหตุหลายๆ อย่าง

อาจจะเกิดจากวิชาเรียนและการบ้านต่างๆ ซึ่งวิชาเรียนอาจง่ายเกินไป

ทำให้เด็กเกิดความเบื่อหรือวิชาเรียนอาจ ยากจนเกินไป ทำให้เด็ก

เกิดความกดดันว่า ไม่ฉลาดเท่าเด็กคนอื่นๆ สิ่งสำคัญที่พ่อแม่ควรทำคือ

อย่าถามลูกว่าทำไมถึงไม่อยากการไปโรงเรียนเนื่องจากเด็ก

มักจะไม่รู้ คำตอบ เมื่อเด็กไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร ก็จะเป็นการทำให้

เด็กเกิดความรู้สึก เ ค รี ย ด แทน ทั้งนี้พ่อแม่ผู้ควรบอกเด็กว่าความกลัว

ไม่ช่วยอะไรหากแต่เด็กควรเอาชนะความกลัว ให้ได้ควรเปิดใจให้กว้าง

ในการรับฟังความรู้สึกของลูก

9. ขีดเส้นชีวิตให้ลูก

กำหนดกฎเกณฑ์ ข้อปฏิบัติต่างๆ ให้ลูกเดินตามทางที่พ่อแม่ปูไว้

ซึ่งนั่นอาจเป็นเรื่องดีที่จะทำให้ลูกมีวินัย แต่ในทุกๆ กฎที่พ่อแม่ตั้งไว้ก็ควร

ให้ลูกรับรู้ด้วย พร้อมให้ลูกมีส่วนร่วมในการขีดเส้น ชีวิตของตนเอง และ

ต้องปล่อยให้ลูกได้เรียนรู้ที่จะทำบางสิ่งด้วยตัวเองบ้างค่ะเพียงเท่านี้

ความสำเร็จ ในชีวิตลูกก็จะอยู่ไม่ไกลสุดท้ายนี้ การเลี้ยงลูกที่ถูกต้อง

จะต้องอย่าให้ลูกเปราะบางจนเกินไป เหมือนไข่ในหิน

อย่าเลี้ยงลูกให้เห็นแก่ตัว ต้องเลี้ยงลูกให้โตไปตามวัย

อย่าให้กินยากอยู่ยาก อย่าให้ลูกกลัวในสิ่งที่ ไ ร้ ส า ร ะ

โดยพ่อแม่ ควรเริ่มต้นสร้างนิสัยเด็กด้วยการทำให้ตัวเอง ให้เป็นแบบอย่าง

พร้อมกับฝึกให้เด็กรับรู้ และรู้จักรับผิดชอบด้วยตัวเอง รวมทั้งเปิดโอกาส

ให้เด็กได้เรียนรู้รวมถึงฝึกฝน นั่นจะทำให้เด็กสามารถหาแนวทาง

ดำเนินชีวิตตามบทบาทและหน้าที่ของตัวเองได้เป็นอย่างดี

ขอขอบคุณ k r u u p d a t e. c o m

Load More Related Articles
Load More By Verrysmile999
Load More In ข้อคิดดีๆ

Check Also

บอกนิสัยจากการเลือกดวงอาทิตย์ที่ชอบ เผยความจริงในตัวคุณ

ชวนเล่นเกม ภาพทายนิสัย จงเลือกภาพพระอาทิตย์ที่ชอบเพียง 1 ภาพเท่านั้น แล้วเลื่อนลงไป อ่ า น…