Home ข้อคิดดีๆ 8 ข้อที่บอกได้ว่า ทำไมคนเรียนไม่เก่ง หลังเรียนจบ..มีหน้าที่การงานดี

8 ข้อที่บอกได้ว่า ทำไมคนเรียนไม่เก่ง หลังเรียนจบ..มีหน้าที่การงานดี

13 second read
0
0

หากเราลองมองย้อนกลับไป ในวัยเรียนเห็นตัวเองเป็นอย่ างไรครับ ? บ้ างอาจเกเร ไม่ค่อยชอบเข้าเรียน

หนีไปเล่นเกม บ้ างอาจตั้งใจเรียนเพื่อเตรียมสอบ เข้ามหาวิทย าลัยที่ตัวเองหวังแต่เชื่อแน่ว่าเด็กตั้งใจเรียนนั่ง

อยู่หน้าห้องคงเป็นส่วนน้อยแน่นอน ส่วนเด็กหลังห้องแบบเราๆ แล้ว เรื่องเรียงถือเป็นปัจจัยรองอย่ างช่วยไม่ได้

ซึ่งมีคำเฉพาะสำหรับ ใช้เรียกนักเรียนกลุ่มนี้ว่า “นักเรียนเกรด C” นี่เองเป็นเหตุผลที่ในวันนี้ เราได้หยิบ

8 เหตุผลว่าทำไมเด็กเรียนไม่เก่งมัก ประสบความสำเร็จหลังเรียนจบ มาฝากกันเราไม่ได้หมายความว่าการตั้งใจ

เรียนเป็นสิ่งไม่ดีนะครับ การตั้งใจเรียนถือ เป็นสิ่งดีมาก แต่เราเพียงแค่อย ากหยิบยกอีกแง่มุมหนึ่งของคำถาม

ที่ว่า ทำไมเด็กเรียนไม่เก่ง ถึงมักจะมีชีวิตที่ค่อนข้างดี ขัดจากคำดูถูก ที่อาจารย์ได้พร่ำบอกเขามาให้ดู

ก็เท่านั้นเองครับ ตามมาดูกันเลยดีกว่า

1. พวกเขาไม่ยอมเป็นผู้ติดตามใคร

พวกเขามักไม่ค่อย ชอบเดินตามเส้นทางของใคร โดยเด็กเหล่านี้ไม่เชื่อว่าการที่ชีวิตของพวกเขาต้องไป

คอยเดินตามบุคคล ที่คนอื่นต่างคิดว่าเป็นแบบแผน จะเป็นหนทางที่ถูกต้อง อีกทั้งพวกเขายังไม่ชอบให้ใคร

มาบอกว่าพวกเขาต้องใช้ชีวิตอย่ างไร เพราะนักเรียน C จะมีวิธีการดำเนินชีวิตในแบบของพวกเขาเอง

2. พวกเขาตั้งคำถามเกี่ยวกับระบบการศึกษา

นักเรียน C จะไม่ค่อยเชื่อมั่น ในระบบการศึกษาที่ตีกรอบอยู่ภายในห้องเรียน พวกเขาเชื่อในการเรียนรู้

ที่อยู่ภายนอกมากกว่า เพราะรู้ว่าการเรียนรู้สามารถเกิดขึ้น ได้ในทุกสถานการณ์อีกทั้งยังไม่กลัวที่จะท้าทายตัวเอง

แม้การท้าทายไปสู่หนทางนั้นอาจอึดอัด จากการค้านสายตาของบุคคลอื่น แต่ นักเรียน C รู้ว่ามันก็อึดอัด

น้อยกว่าที่จะต้องเดินไปในหนทางที่ผิดพลาดและไม่ใช่ตัวเอง

3. พวกเขามักมีเรื่องใหญ่กว่าที่ต้องกังวล

น่าแปลกที่มีผลการยืนยัน ที่น่าสนใจว่า หากเราตั้งใจเรียนมากเกินไป จะทำให้เราไม่มีเวลาคิดถึงอนาคตอย่ างจริงจัง

นี่เองเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้นักเรียน C มักประสบความสำเร็จ ในชีวิตหลังการเรียนจบ เพราะเด็กเหล่านี้คอยเฝ้ารอ

และคิดมาตลอดถึงชีวิต หลังการเรียนจบ ว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่พวกเขาจะได้ใช้ชีวิตที่แท้จริง

4. พวกเขามักไม่พย า ย ามประจบประแจงผู้บังคับบั ญ ชา

นักเรียน C มักไม่เคยมีพฤติก รรม ประจบประแจงหรือคอยเอาใจอาจารย์ของพวกเขา พวกเขาจะเคารพรักครู

ของพวกเขา แต่จะไม่ได้ต้องทำตาม หรือเชื่อในทุกสิ่งที่ครูของพวกเขาพูด เพราะเด็กเหล่านี้ไม่เชื่อว่าการที่ทำ

ทุกสิ่งตามที่ครูสั่งจะเป็นหนทางเดียวที่ จะนำพาเขาไปสู่ความสำเร็จในการดำเนินชีวิตในอนาคต โดยพวกเขามัก

มีความคิดว่าความก้าวหน้าในอนาคตคือสิ่งที่พวกเขาจำเป็นต้องสร้างขึ้นเอง

5. พวกเขารู้วิธีจะยกระดับความสามารถของผู้อื่น

ในขณะที่เหล่าบรรดา เด็กเรียนกำลังตั้งใจเรียน และเคร่งเครี ย ด กับการสอบเหล่านักเรียน C ใช้เวลา

เหล่านั้นไปกับการสร้าง ”กองทัพ” ของพวกเขาเองโดยเขาจะใช้เวลา ในช่วงเวลานี้ในการสร้างคอนเน็คชั่น

ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะพวกเขารู้ว่า ชีวิตหลังการเรียนจบเจ้าตัวความสัมพันธ์ ระหว่างบุคคลอื่นนี้แหละ

ที่จะเป็นใบเบิกทางให้เขาสามารถมีลู่ทางต่างๆ ได้

6. พวกเขามีคำจำกัดความของคำว่า ”ความสำเร็จ” เป็นของตัวเอง

นักเรียน C มักรู้ว่าความสำเร็จ ของพวกเขาไม่ได้มาจากการที่ได้เกรดเอในห้องเรียน เพราะเด็กเหล่านี้รู้ว่า

ความสำเร็จ มักเกิดมาจากการสั่งสม ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นภายนอกมากกว่า และพวกเขาไม่สนใจว่าคนอื่น

จะคิดอย่ างไร เพราะพวกเขามีหนทาง ที่เขาได้เลือกไว้ในใจอยู่แล้ว

7. พวกเขามักเป็นคนช่างฝัน

ในบรรย า กาศห้องเรียน ขณะที่เหล่าเด็กเรียน ทั้งหลายตั้งใจเรียนอยู่ นักเรียน C มักมองออกไปนอก

หน้าต่าง มองดูท้องฟ้า และเมฆ และจินตนาการสิ่งต่างๆไปเรื่อยเปื่อย เด็กเหล่านี้มักเป็นเด็กที่ช่างฝันชอบ

จินตนาการนอกกรอบ พวกเขามักจะจินตนาการ ไปถึงการทำงานในชีวิตจริง ดังนั้นเมื่อพวกเขาเรียนแล้ว

และมีอิสระ ทำให้พวกเขาทุ่มเททุกอย่ างเพื่อสร้างความฝันที่เขามักวาดไว้ให้เป็นจริงนั่นเอง

8. พวกเขามักจะเรียนรู้โดยตรงมากกว่า

นักเรียน C มีความคิดว่า การที่หากจะต้องเรียนรู้ อะไรสักเรื่องหนึ่งการที่พาตัวเองไปเรียนรู้กับมัน “โดยตรง”

ถือเป็นสิ่งสำคัญ นี่เองเป็นเหตุผลว่าเมื่อเด็กเหล่านี้สนใจอะไรพวกเขาก็จะทุ่มเทตัวเขาต่อการเรียนรู้สิ่งนั้นสุดตัว

อีกทั้งพวกเขามักกำหนดทิศทาง การเรียนรู้ในแบบของพวกเขาเอง โดยไม่ต้องการคำตอบสูตรสำเร็จจากผู้อื่น

แต่พวกเขาจะมีวิธีการเรียนรู้ในแบบของตัวเอง

อ่ าน แล้วเป็นอย่ างไร กันบ้ างครับ มีใครเป็น “นักเรียน C” กันบ้ างรึเปล่าครับผม เชื่อว่าคงมีอีกหลายคน

ที่จบการศึกษามาแล้วตอนนี้ และกำลังพย า ย ามสุดวิถีทางในการไล่ล่าความฝันให้เป็นจริงอยู่เราเชื่อเหลือเกิน

ว่าความทุ่มเทถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะช่วยให้คุณไปถึงฝั่งฝันได้ ดังนั้นอย่ าท้อครับ จงสู้ไปเพื่อความฝัน

เพราะเมื่อไหร่ที่เราหยุดแล้วล้มเหลว นั่นคือวิธีเดียวที่จะยอมให้คำพูดของเหล่าครูบาอาจารย์ที่เคยดูถูกไว้เป็นจริง

แบบนั้นเราจะยอมเหรอครับ

ขอขอบคุณ u n l o c k m e n

Load More Related Articles
Load More By verrysmiles smiles
Load More In ข้อคิดดีๆ

Check Also

6 คำถามดีๆ ที่พ่อแม่ควรถาม ก่อนลูกจะนอน

หลังจากเด็กๆ ทำกิจกรรมมาทั้งวัน เวลาพักผ่อน ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ จะสามารถแส…