
การทำงานเป็นทีมจะอย่างไรก็ต้องมีหัวหน้า เพียงแค่บทบาทของเขานั้นอาจจะแตกต่างกันออกไปในแต่ละงาน บางงานหัวหน้าคือคนคุมทุกอย่างในกระบวนการ บางงานก็เป็นเพียง
ตำแหน่งศูนย์รวมใจของทีม แต่ไม่ว่าจะทำหน้าที่แบบไหน หัวหน้าคือคนที่จะพาทีมไปสู่จุดหมายและความสำเร็จที่ตั้งไว้ อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่หัวหน้าทุกคนที่จะมีคุณสมบัติและนิสัยที่
เหมาะแก่การเป็นผู้นำ และนี่คือ 7 นิสัยแ ย่ๆ ที่ผู้นำที่ดีจะไม่ทำ เพราะนอกจากจะไม่ช่วยให้ทีมประสบความสำเร็จแล้ว ยังจะพาให้ทุกคนไม่ชอบหน้าอีกด้วย
1.สนใจแค่คำเยินยอ
คำชมเป็นสิ่งที่แทบทุกคนอยากจะได้ยิน นอกจากจะฟังแล้วรู้สึกดีมันยังทำให้เรามีกำลังใจเพิ่มขึ้นด้วย แต่ถ้าคำชมเชยไม่ได้มาจากใจและตั้งอยู่บนความเป็นจริง มันก็เป็นเพียงคำพูดที่ดูดี
แค่เปลือกนอกแต่ซุกซ่อนปัญหาไว้ภายใน หัวหน้าจะต้องรับฟังทุกคำติคำชม ไม่ว่าจะดีหรือแ ย่หากคำพูดเหล่านั้นตั้งอยู่บนหลักเหตุผลความเป็นจริง สิ่งที่ควรทำคือนำคำพูดเหล่านั้นมา
คิดวิเคราะห์และปรับปรุงสิ่งต่างๆ ให้ดีขึ้น อะไรที่ดีก็รั กษ าไว้และทำให้ดีกว่าเดิม อะไรที่แย่ก็หาทางเปลี่ยนแปลงพัฒนา แต่ถ้าคุณสนเพียงแค่คำพูดคำจาที่หวานหู รอบข้างคุณก็จะมีแต่
คนช่างประจ บ พูดแต่เรื่องโ กห กปิดบังปัญหา นานวันเข้าคุณจะไม่มีใครที่สามารถเชื่อใจได้อยู่ข้างๆ คุณอีกต่อไป เพราะคนทำงานไม่ได้รับการเหลียวแล มีแค่คนเลี ยแ ข้ งเลี ยข าที่
เจริญก้าวหน้า ไม่นานทีมและองค์กรของคุณก็จะล่มสล า ยเพราะไม่มีใครกล้าที่จะหยิบปัญหาขึ้นมาพูดเพื่อแก้ไข มีแต่คนซุกปัญหาไว้ใต้พรม
2.เอาดีเข้าตัวเอาชั่วให้ผู้อื่น
การทำงานเป็นทีม ไม่ว่าผลงานที่ออกมาจะประสบความสำเร็จหรือล้ มเหล ว หัวหน้าคือคนแรกๆ ที่จะเป็นเป้าหมายของคำชื่นชมและคำต่อว่า เพราะคนอื่นจะถือว่าคุณคือคนดูแลภาพรวม
การทำงานของทีม ในบางครั้งคุณเลยอาจจะดูเหมือนหนังหน้าไฟไปโดยปริยาย แต่ไม่ใช่ทุกคนที่อยากจะแบกรับความผิดพลาด หัวหน้าบางคนจึงเลือกที่จะโทษลูกน้องในทีมเพื่อที่จะ
ลอยตัวเหนือปัญหา หากความผิดพลาดไม่ได้เกิดจากตัวคุณจริงๆ คุณยังมีโอกาสอธิบายให้คนอื่นๆ ทราบถึงต้นตอของปัญหา แต่ถ้าคุณเลือกที่จะลอยตัวเหนือปัญหาเมื่อไหร่ ความเชื่อมั่น
และความเชื่อใจในตัวคุณจะหมดไปทันที เพราะคุณในฐานะหัวหน้าไม่สามารถทำให้ลูกทีมวางใจและรู้สึกว่าพึ่งพาได้ และเมื่อไหร่ที่ผลงานประสบความสำเร็จ อย่าลืมให้เครดิตคนในทีม
อย่าเอาเรื่องดีๆ ไว้ที่ตัวเองคนเดียว เพราะถ้าไม่มีพวกเขาแล้ว งานของทีมก็ยากที่จะประสบความสำเร็จ
3.พูดมากกว่าฟัง
การฟังไม่ใช่เพียงการบอกว่าฉันได้ยินที่เธอพูด แต่คือการตั้งใจทำความเข้าใจในสิ่งที่ผู้อื่นสื่อส า รออกมา ไม่ว่าจะทางวาจาหรือภาษากาย ต่อให้คุณเป็นหัวหน้าที่เก่ง แต่ถ้าคุณเอาแต่พูด
เอาความคิดตนเองเป็นใหญ่ ไม่ยอมฟังใครเลย ก็ยากที่คนอื่นจะเคารพและอยากทำงานกับคุณ เพราะคุณไม่เห็นคุณค่าในตัวของคนอื่นๆ ก่อนที่จะให้คนอื่นฟังคุณ อย่าลืมฟังพวกเขาก่อน
เพราะการเป็นผู้นำไม่ใช่เอาแต่พูดสั่งอย่างเดียว แต่คือการนำทีมด้วยความเข้าอกเข้าใจซึ่งกันและกัน ผ่านการฟังด้วยความเข้าใจ
4.บังคับให้ทุกคนพินอบพิเทาอยู่เสมอ
แม้โลกจะก้าวไปไกลแค่ไหน แต่วัฒนธรรมการเคารพผู้อาวุโสทั้งวัยวุฒิและคุณวุฒินั้นไม่เคยหายไป ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่แ ย่เสียทีเดียว เพราะการเคารพผู้อื่นในฐานะปัจเจกบุคคลเป็น
มารยาททางสังคมที่ควรพึงมี เพียงแต่ผู้คนบางกลุ่มนั้นชื่นชอบที่จะให้ผู้อื่นเคารพตนมากเป็นพิเศษ เพียงเพราะอายุมากกว่าหรือตำแหน่งงานสูงกว่า แท้จริงแล้วความเคารพจะเกิดขึ้นได้
ต้องมาจากการกระทำ อย่างแรกที่ต้องทำคือ “เป็นผู้ให้” หัวหน้าที่ดีต้องมอบความมั่นใจและความเชื่อมั่นให้ทีมผ่านการเป็นมืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการทำงานเป็นแบบอย่าง แสดงให้
ทีมเห็นว่าคุณมีความสามารถในการเป็นหัวหน้าจริงๆ ไม่ใช่เป็นได้เพราะอาวุโสกว่า และให้ความเคารพแก่คนอื่นๆ ก่อนที่จะคาดหวังให้พวกเขาเคารพในตัวคุณไม่ว่าพวกเขาจะอายุมากน้อย
แค่ไหน หรือจะอยู่ในตำแหน่งใด หากคุณไม่เป็นผู้ให้แล้วคิดแต่จะเป็นผู้รับ คุณจะไม่มีวันได้อะไรที่มาจากใจของผู้อื่นแม้แต่น้อย หัวหน้าที่ดีจะไม่ป่าวประกาศให้คนอื่นเคารพในตัวเขา
แต่จะปฏิบัติตัวให้ดีจนคนอื่นนับถือโดยไม่ต้องบังคับ
5.ไม่จัดลำดับความสำคัญในการทำงาน
การเป็นหัวหน้ามาพร้อมกับความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้น นอกจากทำงานส่วนตัวแล้วยังต้องคอยดูแลงานของทีมให้ดำเนินไปด้วยดี ดังนั้น การจัดลำดับความสำคัญสำคัญของงานจึงเป็น
ทักษะหนึ่งที่จำเป็นมากๆ เพื่อที่เราและทีมจะสามารถทำงานให้สำเร็จลุล่วงได้โดยง่าย แต่ถ้าหัวหน้าของคุณไม่มีทักษะนี้ หรือมีแล้วไม่ยอมทำ ปัญหาใหญ่ก็จะตามมา เนื่องด้วยการ
จัดลำดับความสำคัญนั้นค่อนข้างกินเวลาพอสมควร หัวหน้าที่ไม่ชอบทำงานจุกจิกก็จะโย นให้คนอื่นในทีมทำงานแทน หรือร้ า ยที่สุดคือการปล่อยให้คนอื่นๆ ทำงานอย่างสะเปะสะปะ
และไม่ควบคุมดูแลภาพรวมของงาน ในท้ายที่สุดทีมของคุณก็จะล่ม และจะไม่มีใครอยากทำงานกับคุณอีกต่อไป เพราะคุณไม่มีความสามารถที่จะเป็นหัวหน้าที่ดีได้
6.มีนิสัยโป้ ปด ค ด โ ก งขี้นินทา
จริงๆ ไม่เพียงแค่หัวหน้า แต่ใครก็ตามที่มีนิสัยแบบนี้ก็ค่อนข้างจะไม่น่าคบเท่าไหร่ เพียงแต่คนที่มีอำนาจมักจะสร้างปัญหามากกว่าคนกลุ่มอื่น เพราะพวกเขาสามารถใช้อำน า จในทาง
ที่ผิดได้ หัวหน้าที่โ ป้ ป ด แน่นอนว่าไร้ซึ่งความน่าเชื่อถือ ต่อหน้าพูดอย่างลับหลังเป็นอีกอย่าง บางครั้งอาจพาให้ทีมแตกออกเป็นเสี่ ย งๆ เพราะหัวหน้าเอาแต่โ กห กสร้างความร้าวฉาน
ไปมาในทีมจนไม่มีใครเชื่อใจกันอีก นิสัยค ดโก งจะไม่เพียงพาทีมพัง แต่องค์กรก็พานจะล่ มจ มด้วย เพราะคนที่ประพฤติทุจริตเป็นเรื่องปกติไม่ใช่คนที่น่าคบหาแม้แต่น้อย เพราะ
พวกเขาจะทำทุกทางให้ตัวเองเป็นผู้ได้แม้จะผิ ดก ฎหมา ย และไม่สนใจไยดีต่อผู้อื่นที่ได้รับผลกระทบ นิสัยชอบนินทาว่าร้ า ยก็แ ย่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่านิสัยอื่น เพราะเรื่องซุบซิบนินทา
ไม่จำเป็นว่าทุกอย่างที่พูดออกมาจะเป็นเรื่องจริง แถมยังสร้างความแตกแยกในทีมและองค์กร หรืออาจสร้างรอยแผ ลในใจให้คนอื่นๆ ใครที่มีนิสัยเช่นนี้ โดยเฉพาะหัวหน้า ควรที่
จะหลีกห่างให้ไกล และไม่ควรให้ขึ้นมามีอำนาจเหนือผู้อื่น เพราะจะทำให้ทุกอย่างแย่จนอาจจะแก้ไขไม่ได้ในท้ายที่สุด
7.มองโลกในแ ง่ร้ า ยกับทุกอย่างตลอดเวลา
มองโลกในแง่ดีไม่ได้แปลว่าโลกสวย การมองโลกในแ ง่ร้ า ยก็ไม่ได้แปลว่ามองโลกตามความเป็นจริงเสมอไป และถ้าให้เลือกทำงานกับคนอารมณ์บูดมองทุกอย่างแย่ไปหมด กับคน
อารมณ์ดีมองอะไรๆ ด้วยความคิดเชิงบวก น้อยคนคงเลือกที่จะทำงานกับคนอารมณ์บูดบึ้ง เพราะนอกจากจะพาบรรยากาศแ ย่แล้วนั้น ยังทำให้สุ ขภ า พเสียอีกด้วย ไม่ว่าจะมองโลก
ในแง่ไหน ในชีวิตจริงเราก็ควรที่จะมองโลกในทุกแง่มุมที่ทำได้ เพราะความเข้าใจนั้นไม่ได้มาจากมุมมองใดมุมมองหนึ่ง แต่เป็นการรู้ให้มากแล้ววิเคราะห์ออกมาเป็นมุมมองของตนเอง
แต่คนที่มองในแง่ร้ า ยตลอดเวลาก็จะไม่เห็นถึงโอกาสในการทำสิ่งต่างๆ เพราะพวกเขาจะเห็นแค่ความล้ มเหล วในทุกการกระทำ ยิ่งเป็นหัวหน้ายิ่งแล้วใหญ่ เพราะทีมจะไม่สามารถลงมือ
ทำอะไรได้หากหัวหน้าเอาแต่คอยขัดขาคนอื่นเพียงเพราะตนเองมองโลกในแง่มุมเดียว แม้ทุกคนจะไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่มนุษย์สามารถที่จะเรียนรู้และพัฒนาตนเองจากความ
ผิดพลาดได้ นิสัยที่ทำให้คนรอบข้างรู้สึกลำบากใจและก่อความเดือดร้อนให้ผู้อื่นนั้นเป็นเรื่องที่ควรจะรีบแก้ไข เพราะในระยะยาวนอกจากจะไม่มีใครอยากร่วมงานกับคุณแล้ว ตัวคุณเอง
ก็ยากที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต อะไรที่แ ย่ก็รีบแก้เสีย ก่อนที่จะสายเกินไป
ขอบคุณที่มา : m i s s i o n t o t h e m o o n o f f i c i a l