
1. ต้อง ‘รักตัวเอง รู้จักตัวเอง’ ให้ได้ก่อนเป็นอันดับแรก (สำคัญมาก!)
สาวๆ มากมายที่ตกม้าต า ย ตั้งแต่ข้อแรก! จะเรียกว่าไร้เดียงสา อ่อนต่อโลกก็คงได้ คือมีความคิดในหัวแค่อย า กมีแฟนหน้าตาดี มีโมเมนต์หวานๆ ให้คนอิจฉา แต่ไม่รู้ว่าแฟนนิสัยแบบไหนที่
จะไปกันรอด ต้องการความสัมพันธ์ยังไง ถ้าเกิดอุปสรรคในความรักจะแก้ปัญหาได้ไหม คิดแค่ว่าคบๆ ไปก่อนเดี๋ยวว่ากัน ความคิดแบบนี้แหละเลิกรากันไม่รู้กี่คู่แล้ว แม้ความรักต้องใช้หัวใจเป็นอันดับแรก แต่มันก็ต้องมาคู่กับส ม อ ง ด้วยนะคะซิสขา!
หลายคู่ที่ยอมตกอยู่ใน Toxic Relationship โดนแฟน ทำ ร้ า ย ร่ า ง ก า ย ด่าทอ ใช้อำนาจข่ม นอกใจนับครั้งไม่ถ้วนก็ยังยอม เพราะแค่อย า กยื้อให้ความสัมพันธ์ไปรอด กลัวข า ย ขี้ ห น้ า ชาวบ้ า น คิดว่าเกิดเป็นผู้หญิงก็ยอมๆ ผู้ชายไปเถอะ etc. ทั้งหมดนี้บ่งบอกถึงการ ‘ ไม่รักตัวเอง ‘ เอาซะเลย นับจากนี้ไปถ้าอย า กมีความรักที่ดี
เธอต้องรักตัวเอง ชัดเจนกับตัวเองว่าต้องการรักแบบไหนในชีวิต และหาแฟนที่มีเป้าหมายแบบเดียวกัน เช่น ไม่ต้องการมีลูก, ไม่คบกับคนไม่ซื่อสัตย์, ไม่คบคนที่ขี้โ ก ห ก เป็นหนี้การพ นั น ดื่มเ ห ล้ า เป็นต้น ยิ่งมีเงื่อนไขเยอะ ถ้ามีคนคุณสมบัติครบเข้ามา โอกาสที่จะเลิกราก็ลดน้อยลงตามลำดับค่ะ
2. ความรักไม่สามารถ ‘ซ่อม/อุดรูรั่ว’ ให้เธอได้ หากเธอไม่แก้ไขตัวเอง
ขอพูดแรงๆ สักหน่อยว่า ความรักไม่ใช่ย า รั ก ษ าโ ร ค ให้ใครค่ะ ความรักคือการเติมเต็มและส่งเสริมคนสองคนให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข แต่ไม่ใช่ให้คนนึงไปอุดรูรั่วหรือซ่อมช่องโหว่ในใจของอีกฝ่าย เพราะคู่ที่เริ่มต้นด้วยการ ‘ อย า กเยียวย า ‘ ในที่สุดมักไปไม่รอด เพราะนั่นคือความสงส า ร ไม่ใช่ความรัก
เธอจะดีใจเหรอถ้าผู้ชายที่เข้ามาอย า กคบเพียงเพราะสงส า ร เห็นว่าโสดมานาน หรือเข้ามาจีบเพราะอย า กทำตัวเป็นพ่อพระ ซ่อมปมด้อย แ ผ ล ใจในอดีตให้ และเธอก็ตกลงคบเพราะอย า กหายดี แต่ไม่ได้รักเขาในเชิงโรแมนติกใดๆ เลย นั่นไม่ใช่รักแท้ แต่เป็นรักหวังผลประโยชน์มากกว่า
เ นื้ อ คู่ที่จะอยู่กับเราได้นาน ต้องคลิกกันในเกือบทุกมิติของชีวิต ทั้งความเป็นเพื่อน ความรักในระดับที่ใกล้เคียงกัน ความผูกพัน คุยกันแล้วมีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ไม่ใช่เจอหน้ากันทีก็ปรับทุกข์ คนนึงร้องไห้เสียใจ อีกคนปลอบใจ อาจจะดูซึ้ง แต่ในระยะย า ว ภาระหนักจะตกอยู่ที่คนซ่อม ที่ต้องคอยมาแก้ปัญหาให้แฟน
จนวันหนึ่งขีดความอดทนอาจขาดสะบั้นได้ สุดท้ายคนเราก็ต้องแก้ปัญหาให้ได้ด้วยตัวเอง อย่าทำตัวเป็นภาระทั้งทางกายหรือทางใจของใคร เมื่อตัวเองเติมเต็มแล้วค่อยเปิดโอกาสให้ผู้ชายเข้ามาในชีวิตจะดีกว่านะคะ
3. อย่าคิดว่ารักจะเป็นแบบเดิม ‘ทุกครั้ง’ เพราะคนเราไม่เหมือนกัน
สำหรับสาวๆ คนไหนที่มีประสบการณ์เดท เคยมีแฟนมาแล้วพอสมควร ซึ่งก็คงมีทั้งช่วงเวลาที่ดีและที่แ ย่ เมื่อคิดจะหารักครั้งใหม่ ขออย่าให้เธอเอาประสบการณ์กับแฟนเก่า มาเปรียบเทียบกับคนใหม่เด็ดขาด เพราะคนเราไม่เหมือนกัน ทั้งหน้าตา นิสัย บุคลิก ความคิดความรู้สึก แนวทางในการแสดงความรักก็ต่างกัน ยิ่งไปเทียบยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหองระแหงกว่าเดิมเสียเปล่าๆ
เธออาจเคยคบกับคนรวย เลี้ยงข้าวเธอทุกมื้อ เปย์ของขวัญแพงๆ ให้ทุกเทศกาล โทรมาบอกรักทุกวัน แต่ด้วยเหตุผลอะไรก็ตามก็เลิกรากันไป เมื่อเธอได้เจอรักใหม่
ก็อย่าคาดหวังว่าเขาจะทำแบบเดียวกันเป๊ะๆ เขาอาจไม่เก่งในการแสดงความรู้สึกหรืองานยุ่ง ฐานะไม่ได้รวยมากเท่าผู้ชายคนนั้น แต่หากเขายังรักและใส่ใจเธอตามที่ควรจะเป็น นั่นก็คือสิ่งที่ดีแล้ว ไม่มีใครอย า กโดนเทียบกับแฟนเก่าหรอก ยกเว้นว่าเธออย า กให้เขาเป็นแฟนเก่าเพิ่มด้วยอีกคน!
4. จำไว้เสมอว่า เธอมี ‘ความสุข’ ได้เอง แฟนเป็นแค่ส่วนเติมเต็ม!
หลายคนที่ชีวิตไม่มีความสุข เพราะคิดว่าสถานะโสดเป็นเรื่องน่าอับอาย เป็นความเหงา ต้องมีใครสักคนอยู่เคียงข้าง ถ้าไม่มี = แ ย่ หรือถ้ามีแฟนก็ทุ่มเท ยอมแฟนทุกอย่าง เอาความสุขของตัวเองไปขึ้นตรงอยู่กับเขา
โลกทั้งใบคือเขา เมื่อวันหนึ่งความรักมาถึงทางตัน อนาคตไปต่อไม่ได้ ผู้ชายนอกใจ ก็เหมือนโลกพังทลายลงมา พังทั้งอารมณ์ทั้งความรู้สึก อันที่จริงไม่ใช่แค่เรื่องแฟน แต่สาวๆ ไม่ควรเอาความรู้สึกไปลงที่ใครแค่เพียงคนเดียว เพราะเมื่อเขาจากไป เราจะเ จ็ บ หนักมากๆ ค่ะ
จงอยู่ให้ได้ด้วยตัวเอง คนมากมายที่มีชีวิตสนุก ร่าเริงสดใส มีกิจกรรม งานอดิเรก เป้าหมายในชีวิตที่ทำได้ด้วยตัวคนเดียว โดยไม่จำเป็นต้องมีแฟน ที่จริงการเป็นโสดเองก็มีข้อดีหลายอย่างที่คนมีคู่ทำไม่ได้ เช่นเรื่องของอิสระ การไม่ต้องผูกมัด ไม่ต้องคอยห่วงหรือพะวงกับใคร ไม่มีภาระผูกพัน เป็นต้น จำไว้ เป็นโสดให้มีความสุขก่อนถึงจะเริ่มคิดมีแฟน ถ้าไม่อย า กเสียใจภายหลัง
5. ถึงเจอคนที่ชอบแล้ว ก็อย่ารีบร้อน ค่อยๆ ดูใจกันไปก่อน
จะอายุยังน้อย หรือเข้าสู่วัยกลางคนแล้วก็ตาม ความรักก็ต้องอาศัยเวลาในการเรียนรู้ ศึกษานิสัยซึ่งกันและกันว่าจะไปกันรอดไหม ถึงสาวซิสเจอคนที่ถูกใจแล้ว กำลังคุยๆ กันอยู่
ก็อย่าเพิ่งรีบร้อนตกลงคบเป็นแฟน อันที่จริงยิ่งอายุเยอะ ยิ่งต้องพิจารณาให้นานขึ้นด้วยซ้ำ เพราะหากมีความสัมพันธ์จริงจังเมื่อไหร่ ด้วยบริบททางสังคม รูปร่างหน้าตาที่เริ่มโรยราตามวัย หากไปกันไม่ได้ สาวสามสิบกว่า-สี่สิบ จะใช้เวลาฟื้นตัวนานกว่าวัยรุ่นอยู่แล้ว //สะเทือนใจมาก TT
อย่าไปเชื่อคำที่เขาบอกว่า ” รถด่วนขบวนสุดท้ายแล้วนะ รีบๆ แต่งกับคนนี้เถอะ ดีกว่าโสดจนต า ย ” ไม่จริง! ถ้าเธอเป็นผู้หญิงมีเสน่ห์ มั่นใจ หมั่นดูแลตัวเองให้ดูดี จะอายุเท่าไหร่ก็มีคนเข้ามาได้เสมอ
ไม่จำเป็นต้องคว้าใครก็ได้เพียงเพราะต้องแต่งงาน มีลูกก่อน 30 ตามเกณฑ์ของสังคม ถ้ายังรู้สึกว่าไม่พร้อมก็ดูใจกันไป ไม่ผิด โสดขึ้นคานทองนิเวศน์สวยๆ ยังดีกว่าแต่งกันไปแล้วทุกข์ระทมใจไม่เว้นวัน เพราะเลือกคนผิด บอกเลย!
6. ไม่มีมนุษย์คนไหนเพอร์เฟกต์ 100% ลดความคาดหวังลงบ้ า งก็ดี
สาวๆ เพอร์เฟกต์ชันนิสต์ทุกคนโปรดอ่ า น ทางนี้! แม้เธอจะประสบความสำเร็จด้านการเรียน การงาน ชีวิตส่วนตัวมาโดยตลอด ทุกอย่างต้องเต็มเป๊ะ 100% ไม่ขาดไม่เกิน เจ้าดีเทล เนี้ยบทุกรายละเอียด มาตรฐานสูงปรื๊ดยังไงก็ตาม แต่ในเรื่องของความรัก เธอต้องเว้นพื้นที่เผื่อให้ความไม่สมบูรณ์แบบบ้ า ง ไม่ใช่ตั้งสเปคสูงจนผู้ชายคนนั้นไม่น่ามีอยู่จริงบนโลกใบนี้
เช่น หน้าต้องหล่อเทียบเท่าหรือมากกว่าติ๊ก เจษ, พูดได้ 5 ภาษา, เกรด 4.00, สูง 185 ขึ้นไป ถึงมีคนคนนั้นอยู่จริง ก็ใช่ว่าเขาจะรู้สึกกับเธอเหมือนกัน คู่แข่งก็ต่อคิวย า วเฟื้อย ต้องไปลุ้นเอาข้างหน้าอีก เหนื่อยเด้อ!
ในบางครั้ง สาวๆ ก็ตั้งสเปคให้เพอร์เฟกต์ในสายตาสังคมไว้ก่อน โดยที่ก็ไม่ได้คิดทบทวนว่า ผู้ชายที่ดูดีขนาดนั้น ถ้าคบเป็นแฟนจริงๆ จะรอดรึเปล่า มีถมไปที่ฝ่ายชายหล่อ รวย เก่ง
ดีทุกอย่าง แต่เป็นแฟนที่แ ย่ ไม่เข้าใจ ไม่ใส่ใจ สุดท้ายก็ต้องเลิกกัน หากซิสลองเปิดใจ ให้โอกาสคนธรรมดาที่จีบเธอเข้ามาในชีวิต เขาอาจเป็นแฟนที่ดี ช่างเอาใจ ปรนนิบัติเธอเหมือนเจ้าหญิง ชนะผู้ชายเพอร์เฟกต์คนนั้นขาดลอยเลยก็ได้
7. อย่าซีเรียสกับการหาแฟนอย่างเดียว เอ็นจอยชีวิตระหว่างทางด้วยนะ!
ข้อสุดท้ายนี้ ก็อย า กเตือนสาวๆ ที่ตั้งหน้าตั้งตาหาแฟนอย่างเอาเป็นเอาต า ย ว่า อย่าหมกมุ่น ออกไปใช้ชีวิตบ้ า ง! การหารักแท้ หาคนที่จะแต่งงานด้วยอาจจะดูเป็นเรื่องซีเรียส จริงจัง แต่ก็ใช่ว่าเราจะมีความสุข สนุกกับระหว่างทางไม่ได้ เธอยังสามารถไปเที่ยว ไปเรียนต่อ ไปทำธุรกิจ ไปทำงานอดิเรกที่ชอบ
ไปเข้าประกวดนั่นนี่ โดยที่ยังไม่ได้ปิดโอกาสให้ใครเข้าหา เจอคนที่ใช่ก็คบ ไม่เจอก็ไม่เป็นไร ทั้งประสบการณ์ชีวิตและความรัก มันทำควบคู่กันไปได้นะ!
ความรักบางครั้งก็ขึ้นอยู่กับโชคชะตา การเอาแต่ปัดแอพหาคู่ ไปดูตัว ไปนัดบอดตลอดเวลา ทุ่มเวลาหาแฟนซะเต็มที่ เราอาจไม่เจอคนที่ถูกใจเลย หรือเจอแต่คนแ ย่ ๆ ที่คบกันแป๊บเดียวก็เลิก ในทางกลับกัน ใช้ชีวิตตามปกติของเธอไป ผู้ชายที่ใฝ่ฝันอาจโผล่ขึ้นมาในสถานการณ์สุดบังเอิญก็เป็นได้ หลายคู่ก็เจอกันเพราะเป็นลูกค้าที่ทำงาน,
ไปเที่ยวกรุ๊ปทัวร์เดียวกัน, ลงเรียนค อ ร์ ส อบรมเดียวกัน หรืออาจจะแค่สบตากันในร้านกาแฟก็ได้ เหมือนที่เขาเรียกว่า ‘ รักแรกพบ ‘ ยังไงล่ะ เรื่องแบบนี้ปล่อยไปตามธรรมชาติ อย่าบังคับ อย่าไปเคร่งเ ค รี ย ด กับมันจะดีที่สุดค่ะ
อ่ า น จบถึงตรงนี้ สาวๆ น่าจะเข้าใจบริบทของความรักระหว่างคนสองคนในชีวิตจริงมากขึ้นแล้วนะคะ ว่ามันไม่ได้น่ารักมุ้งมิ้ง 24 ชั่ ว โมง เหมือนในเทพนิย า ยหรือซีรีส์เกาหลี
แต่มีรายละเอียดที่ลึกและซับซ้อนกว่านั้นมาก เมื่อผ่านช่วงเวลาหวานมุ้งมิ้งไปแล้ว ก็คือชีวิตจริงๆ ที่ต้องอาศัยความเข้าใจ อดทน เรียนรู้ซึ่งกันและกันต่อไปเรื่อยๆ ทั้งชีวิต บางคู่ที่แต่งงานแล้วหลายปียังต้องปรับเข้าหากันตลอดเวลาเลย เพราะมนุษย์มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
ย้ำสาวๆ ไว้เลยว่า ” เราต้องมีจุดยืนในการรักและเคารพตัวเอง ” หากมีเรื่องทะเลาะ จะรักแค่ไหนก็อย่าให้เขามาล้ำเส้น ไม่ให้เกียรติกันอย่างเด็ดขาด ซึ่งปัญหานี้จะหมดไปถ้าเรา ‘ เลือกคนที่ถูกต้อง ‘ ตั้งแต่แรก นั่นคือคนที่เรารักและเขาก็รักเรา หากมีครบทั้งหมดนี้ ความรักที่มีก็อยู่กันได้จนแก่เฒ่าได้อย่างแน่นอนค่ะ ขอให้ทุกคนสมหวังกับรักแท้ที่รอคอยนะคะ
ที่มา : sistacafe