
การบ่นเป็นอีกหนึ่งนิสัย ที่เชื่อว่าทุกคนต้องมี บ่นโน่น บ่นนี่ที่ไม่ได้ดั่งใจ บ่นไปเรื่อยแบบสัพเพเหระ แต่รู้หรือไม่การบ่นเป็นการทำให้เสียพลังงานไปมากมาย โดยใช่เหตุ ทั้งไม่มีประโยชน์และไม่มีอะไรดีขึ้นด้วย
ซึ่งขัดกับกฎแห่งแรงดึงดูดที่เน้นย้ำ ถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของตนเอง ให้เราคิดดีเพื่อดึงดูดสิ่งที่ดีเข้ามาหาตัว ซึ่งถ้าเราบ่นก็เป็นการคิดไม่ดี และดึงดูดสิ่งที่ไม่ดีเข้าหาตัวด้วยเช่นกัน
ลองสังเกตให้ดีตอนบ่นเราจะมองเห็นแต่เรื่องไม่ดี เรื่องที่เป็นลบ ทำให้จิตใจและ ส ม อ ง โฟกัสแต่เรื่องไม่ดีเหล่านั้น แต่พอเลิกบ่น ส ม อ ง ก็จะได้ไปคิดเรื่องอื่นที่ดีขึ้นเป็นประโยชน์มากขึ้น แล้วจะบ่นไปเพื่ออะไร
เหตุผลที่ควรเลิกบ่นเสียที
1. ในเมื่อควบคุมไม่ได้ จะบ่นไปทำไม
มีหลายเรื่องในชีวิตคนเรา ที่ควบคุมไม่ได้ อย่างการเมือง รถติด ละครหลังข่าว หรืออะไรก็ตาม
แต่เราก็มักจะหมกมุ่นอยู่กับอะไรแบบนี้เสมอ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่เราทำอะไรไม่ได้แต่ก็ยังขอบ่นเข้าไปอีก
2. บ่นแต่ไม่ทำ ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
คนเรามักเสียเวลาไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง โดยเฉพาะการบ่นซึ่งไม่มีประโยชน์ใด ๆ เลยถ้าบ่นไปแล้วไม่ทำ
ซึ่งการบ่นส่วนใหญ่จะเป็นทัศนคติในเชิงลบที่เรามีต่อสิ่ง ๆ นั้นทำให้พูดไปเรื่อย
ไม่พอใจอะไรก็พ่น ๆ ออกมาจนติดเป็นนิสัย และเปล่าประโยชน์โดยใช่เหตุ
3. ไม่มีใครชอบคนขี้บ่น
ลองสังเกตดี ๆ คนขี้บ่น มักจะชอบบ่นแต่เรื่องเดิม ๆ บ่นแล้วบ่นอีก ย้ำคิดย้ำทำอยู่อย่างนั้น
ไม่ค่อยมีความคิดอะไรที่ต่างจากเดิม แถมมีแนวโน้มที่ดีกรีการบ่นจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย
ก็เลยทำให้ไม่มีใครอยากให้คนขี้บ่นมาอยู่ข้าง ๆ นอกจากจะสร้างความรำคาญไม่รู้จบแล้ว
ยังทำให้สภาพแวดล้อมไม่รื่นรมย์นักด้วย
4. หมกมุ่นและจินตนาการไปเอง
ผลข้างเคียงของการบ่นที่หลายคน ไม่รู้ก็คือเมื่อบ่นแล้ว มักจะทำให้หมกมุ่นอยู่
แต่กับเรื่องนั้นมากเกินไป แม้จะเป็นเรื่องเล็กก็ตาม เช่น บางวันที่รถ ไม่ติดมากเท่าไหร่
แต่ด้วยความเคยชินก็เลยบ่น ซึ่งเป็นการ ห ม ก มุ่ น อยู่แต่กับเรื่องรถติดนั่นเอง
เพราะฉะนั้นถ้าเป็นเรื่องอื่น ก็มีแนวโน้มว่าจะคิดเรื่องนั้นไปตลอดเช่นกัน
5. อคติที่ไม่สิ้นสุด
ความอคติ ไม่เคยทำให้อะไรดี ถ้าคุณไม่ชอบอะไรหรือใครเป็นทุนอยู่แล้ว อคติก็จะบดบังทุกสิ่งอย่าง
แม้จะเป็นเรื่องดี ๆ ก็ตาม การบ่นก็เช่นกัน เมื่อบ่นอะไรก็แปลว่าคุณมีอคติต่อเรื่องนั้นเข้าแล้ว แม้สิ่งที่คุณบ่น
จะถูกพัฒนาให้ดีขึ้นแล้วก็ตาม แต่ยังไงก็ไม่มีทางถูกใจหรือเป็นอย่างที่คุณต้องการได้
เพราะความอคติได้เข้ามาบดบังความดีไปจนหมดสิ้นแล้วนั่นเอง
บ่นกับไม่บ่นแตกต่างกันตรงไหน
บอกเลยว่า แตกต่างกันมากอย่างแรกเลยคือการมองโลก คนที่บ่นมักจะเป็นคนที่ชอบคิดแง่ลบ
ทำให้จิตใจ ขาดการชื่นชมยินดี เผลอ ๆ อาจทำให้ เ ค รี ย ด หรือ สุ ข ภ า พ แ ย่ เข้าไปด้วย
ที่สำคัญคนขี้บ่นมีแนวโน้ม ที่จะทำงานได้ประสบความสำเร็จช้ากว่าคนไม่บ่นอีกด้วย
เหตุผลหนึ่งก็เพราะมัวแต่บ่น แต่ไม่ค่อยจะลงมือทำสักเท่าไหร่ส่วนคนไม่บ่น
โดยส่วนใหญ่จะเป็นคนคิดบวก มองโลกในแง่ดี เห็นหรือเจออะไรที่ขัดหู ขัดตาหรือขัดใจ
ถ้าเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ ก็มักจะยอมรับสภาพ แต่ถ้าเป็นสิ่งที่ทำให้ดีขึ้นได้
ก็จะหาวิธีแก้ไข ปรับปรุงให้ดีขึ้น ทำให้คนไม่บ่นมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จมากกว่า
แถมยังอาจมี สุ ข ภ า พ จิตที่ดีกว่า ด้วยเห็นความแตกต่างของการบ่นไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น
กับการเลิกบ่นแล้วหันมาลงมือ ทำแบบนี้แล้ว น่าจะทำให้หลายคนหยุดบ่นไปได้สักพัก
แต่จะดีกว่าถ้าเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเอง ตั้งแต่ตอนนี้ อาจจะยากหน่อย
แต่ไม่ใช่เรื่อง ที่เปลี่ยนกันไม่ได้ แล้วคุณจะรู้ว่าแค่หยุดบ่น ชีวิตก็ดีขึ้นอีกเยอะ..
ขอขอบคุณ t o d a y.l i n e.m e