
ใครๆ ก็อย ากมีเงิน เก็บเยอะๆ กันทั้งนั้น ทางเราก็ตั้งใจ เก็บหลายครั้งแล้ว แต่ทำม้ายยยยย
ทำไมถึงเก็บไม่ได้สักที ใคร ใครทำให้เป็นแบบนี้ ที่เรายังเก็บเงินไม่ค่อยได้นั้น อาจจะเป็นเพราะสาเหตุต่อไปนี้
1. หักห้ามใจตัวเองไม่ได้
ป้าย S A L E ขอให้บอก !!! เห็นของลดราคา ของจัด โ ป ร โ ม ชั น พิเศษ ลิปสติกออกใหม่
คอลเลคชันนั่นนี่มาใหม่ แล้วอดใจไม่ไหว ก็ของมันต้องมี ถ้าไม่ซื้ อ ตอนนี้ไม่รู้จะ ล ด ราคาอีกเมื่อไหร่
ทำให้ต้องควักกระเป๋าไปซื้ อ ตลอด ตอนซื้ อ มัวแต่ชอปจนไม่รู้ตัว กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็งงแล้วงงอีก
ว่าเงินเดือนพึ่งออกมา แล้วทำไมตอนนี้เหลือนิดเดียว แล้วก็ต้องมาบ่นกับตัวเองว่า นี่เงินเดือนคือเงินทอน!!!
วิธีแก้คือ เราต้องไม่เป็นทาสการตลาด ไม่เป็นทาสโปรโมชัน ถ้าจะให้ดีคือลิสต์ของที่จำเป็น
และอย ากได้เอาไว้ อันไหนใช้ด่วนส่วนอันไหนไม่มีก็ไม่เป็นไร แล้วพอของที่เราต้องการดัน S A L E ขึ้นมา
ก็นี่แหละเวลาของฉัน ส่วนของชิ้นอื่นๆ ที่เราไม่ได้อย ากได้ ต่อให้ลด 90% ซื้ อ มาก็ไม่คุ้ม เพราะเราจะไม่ได้ใช้น้าาาา
2. ใช้ก่อนเก็บ
เรามักจะคิดว่า เงินที่ได้มา – ค่าใช้จ่าย = เงินเก็บ
เหลือเท่าไหร่ค่อยเก็บ แต่!!! มันไม่ค่อยเหลือให้เก็บหรอกค่ะ คุณผู้ชมมมมมม
เราต้องเปลี่ยนสูตรเป็น เงินที่ได้มา – เงินเก็บ = ค่าใช้จ่าย
ต้องเก็บก่อนค่อยใช้ ย้ำ “เก็บก่อนค่อยใช้” ได้เงินมาเท่าไหร่ หักเก็บไปเลย 10% เป็นอย่างต่ำ
แล้วค่อยๆ เพิ่มเลเวลขึ้นเรื่อยๆ เป็น 20% 30% 40% 50% แล้วแต่ที่เราไหว และใช้ชีวิตไม่ลำบากแล้ว
เงินที่เก็บไปแล้ว ห้ามเอาออกมา ใช้โดยเด็ดขาดน้าาาา ยกเว้น เค ส ที่จำเป็นมาก วิ ก ฤ ติ แล้ว
ถ้าไม่มีเงินก้อนนี้จะทำให้มีชีวิตอยู่อย่างลำบาก ก็สามารถเอาออกมาใช้ได้เป็นเคสๆ ไป
3. ไม่ตั้งงบในการใช้จ่าย
ต่อจากข้อ 2 เมื่อเราเก็บก่อนใช้ไปแล้ว เราก็ต้อง ตั้งงบสำหรับการใช้จ่ายด้วยเช่นกัน
เช่น ค่าใช้จ่ายจำเป็น 50% เราก็ต้องผ่ อ น บ้านผ่ อ น รถหรืออื่นๆ ให้อยู่ใน 50% นี้
ถ้าค่าใช้จ่ายเราชนเพดานที่เราตั้งไว้แล้วเราก็ต้องยอมไม่ผ่ อ น ไม่ซื้ อ อะไรเพิ่ม แต่ถ้าจำเป็น
ต้องใช้จ่ายเพิ่มจริงๆ ก็อาจจะต้องใช้วิธีหารายได้เพิ่ม เพื่อให้เรามีงบการซื้ อ ที่มากขึ้นนั่นเอง
วิธีนี้จะทำให้เราคิดทบทวนกับตัวเองว่าอันไหนจำเป็นและต้องการจริงๆ เพราะเรามีโค ว ต้ า
การซื้ อ ของที่จำกัด อันไหนเป็นของที่เราไม่อย ากได้แต่สังคมบอกว่าของมันต้องมี
เราก็จะไม่ซื้ อ ไปเองอัตโนมัติ เพราะเรามีของที่อย ากได้และจำเป็นกว่านั่นเองและ
อีกงบที่สำคัญมากก็คือ งบชอปปิง เราควรจะตั้งงบไว้เลยว่า เดือนนึงชอปปิงได้ไม่เกินเท่าไหร่
บางคนอาจจะเป็นคิดเป็น % เช่น จะชอปปิ้ง 10% ของรายรับที่ได้มา ยิ่งรายรับมาก
ก็สามารถชอปได้มาก รายได้ 20,000 ชอปปิงได้ 2,000 ถ้ารายได้ 50,000
ก็ชอปปิงได้เลย 5,000 แล้วถ้ารายได้ 200,000 ล่ะ ชอปไปเลย 20,000 บาท
โอ้โห แค่คิดก็มีความสุขแล้วใช่มั้ย วิธีนี้จะเป็นแรงผลักดันให้เราอย ากหาเงิน
เพิ่มด้วยพลั ง งานบวกและจะทำให้ให้การหาเงินสนุกไปด้วย เพราะยิ่งหาเงินเพิ่มเท่าไหร่
ยิ่งได้ซื้ อ ของที่อย ากได้มากขึ้นเท่านั้น จะไม่เหมือนการทำงานหาเงินเพื่อเอามาใช้หนี้
แบบนี้เราจะเครี ย ด และกังวลมากกว่าสนุก
4. บัตร เ ค ร ดิ ต
บัตร เ ค ร ดิ ต จะกลายเป็นผู้ร้ ายในโลกของการชอปปิงไปเลยถ้าเราหยุดตัวเองไม่ได้
บัตร เ ค ร ดิ ต ที่จริงมีข้อดีอยู่เยอะมาก เพราะมักจะมี โ ป ร โ ม ชั น
มาให้เราใช้จ่ายได้ประหยัดขึ้น มีเก็บแต้มเพื่อส่วนลดหรือและของ มี C a s h b a c k เงินคืน
บางทีก็มีโปรผ่ อ น 0% 10 เดือน บางทีมีให้ถึง 24 เดือนก็มี ช่วยให้เราได้ของที่จำเป็น
มาใช้ก่อนโดยที่ไม่ต้องใช้เงินก้อน หรือถึงเวลา วิ ก ฤ ติ เราก็ยังอุ่นใจว่าเรายังมีเงินสำรอง
เพื่อจ่ายค่าใช้จ่ายที่จำเป็น แนะนำว่าคนที่จะมีบัตร เ ค ร ดิ ต เพื่อชอปปิงนั้น
ต้องมีวินัยในการบริหารเงินดีอยู่แล้ว วิธีง่ายๆ คือ เปิดบัญชีขึ้นมา 1 บัญชี
แล้วรูดชอปปิงไปเท่าไหร่ โ อ น ไปเก็บไว้ในบัญชีนี้เท่านั้น เมื่อถึงรอบบิลก็นำเงินจากบัญชีนี้
มาจ่ายเต็มจำนวน!!! ย้ำว่าเต็มจำนวนเท่านั้นน้าาา ถ้าเผลอจ่ายขั้นต่ำเมื่อไหร่
ด อ ก เบี้ยจะบานหนักมากกก ด อ ก เบี้ยหนักขนาดที่ต้องลืมเรื่องเก็บเงินไปเลย
เพราะต้องหาเงินมาใช้หนี้บัตร เ ค ร ดิ ตทุกเดือนให้ได้ก่อน
5.ยังไม่รู้จักเครื่องมือสำหรับการเก็บออมและล ง ทุ น
ข้อนี้ถือว่าสำคัญมาก เพราะจะทำให้เราชาวโอดีเนียนเก็บเงินได้ถูกที่ ล ง ทุ น ได้ง่าย
และได้ผลตอบแทนที่ดีขึ้นหลายคนก็จะแนะนำ ให้เก็บเงินในฝากประจำเพื่อบังคับ
ให้เราเก็บเงินทุกเดือน และไม่ให้ถอนออกมาใช้ ซึ่งเป็นวิธีที่ดีสำหรับคนเริ่มสร้างวินัยในการเก็บเงิน
ขอขอบคุณ o d i n i a p p