Home ข้อคิดดีๆ 5 นิสัยของหัวหน้า เลิกไปลงกับลูกน้องได้แล้ว

5 นิสัยของหัวหน้า เลิกไปลงกับลูกน้องได้แล้ว

18 second read
0
0

หัวหน้าคือ อาชีพของการบริหารคน ที่ต้องบริหารให้ทุกคนในทีม ทำผลงานบรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งถ้าเราเข้าใจธรรมชาติของความเป็นมนุษย์ ก็จะทำได้ดี เป็นผู้นำที่ได้ทั้งใจคนและได้ผลของงานที่ดีด้วย

แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงมี หัวหน้าหลายๆ คน ที่เผลอน้อยใจว่า ทำไมลูกน้องของตนเองนั้น ไม่มีความคิดสร้างสรรค์ ขี้เกียจ ไม่มีพลั ง ไม่เปิดใจ ถามคำตอบคำ จนทำให้ยอดขายตก คู่แข่งแซงหนีไปลิ่ว ฯลฯ

ซึ่งสาเหตุอาจไม่ได้ มาจากลูกน้อง โดยตรง แต่เป็นผลมาจากตัว หัวหน้าเองที่อาจมีพฤติกรร ม ไม่ดีที่ทำล ายประสิทธิภาพการทำงานของลูกน้องได้ โดย 5 พฤติกรร ม ที่เราอาจเผลอทำบ่อย ๆ แต่แท้จริงแล้วเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำกับลูกน้อง ได้แก่

1.พูดจาแนะนำ สอนสั่ง โดยไม่ให้เกียรติ

“โชคดีแค่ไหนแล้วที่ยังมีงาน ให้ทำในช่วงวิกฤ ต แบบนี้”, “พี่ขอร้องเถอะนะ ไม่ต้องคิดที่จะทำอะไรเองเลย พี่เป็นหัวหน้า แค่ทำตามที่พี่สั่งก็พอ เข้าใจไหม โอเค้” ฯลฯ ลักษณะคำพูดทำนองนี้ ถือเป็นพฤติกรร ม ที่ไม่ควรทำ

เพราะลูกน้องของเรา ก็เป็นผู้ใหญ่ เป็นเพื่อนร่วมงานของเราซึ่งการสอนผู้ใหญ่จะไม่เหมือนกับการสอนลูก สอนเด็ก คนทำงานทุกคนมีประสบการณ์ การทำงานมาก่อนไม่มากก็น้อย

พวกเขาต้องการแรงจูงใจต้องการประโยชน์ ที่จะได้รับจากการทำตามที่เราแนะนำ What’s in it for me? ลูกน้องทุกคนต้องการความเคารพ การให้เกียรติ เช่นเดียวกันกับเรา ซึ่งไม่ใช่ไปยกมือไหว้หรือ ยกยอปอปั้นเขา แต่เป็นการให้เกียรติในมุมมองการทำงานของเขา และประสบการณ์การทำงานของเขา

2.ตำหนิลูกน้องต่อหน้าเพื่อนร่วมงานคนอื่น

“ทำไมคุณถึงมีปัญหา อยู่คนเดียวคนอื่นเขาไม่เห็นมีปัญหา แบบนี้เลย”, “คุณอย ากได้นู่นได้นี่ แต่ผลงานไม่เห็นเคยมีปรากฎเหมือนคนอื่นเลยนะ สักแต่พูดแต่คุณไม่เคยทำได้เลย” ฯลฯ ถ้อยคำตำ ห นิ ต่อว่าลูกน้องทำนองนี้ต่อหน้าเพื่อนร่วมงาน และลูกน้องคนอื่น ๆ

รวมถึงการเปรียบเทียบว่าคนหนึ่งดีแต่ อีกคนไม่ดี เป็นการทำให้คนเสียหน้า เสียใจ เสียความรู้สึก ซึ่งเป็นสิ่งที่หัวหน้าไม่ควรทำอย่างยิ่งคำแนะนำ ในการปรับเปลี่ยนคือควรเรียกลูกน้อง เข้ามาพูดคุยเป็นการส่วนตัว แล้วพูดถึงพฤติกรร ม

ที่เฉพาะเจาะจงของเขาไปเลยว่า ทำอะไรผิดพลาด เราอย ากให้เขาปรับปรุงแก้ไข อย่างไร เช่น คุณมาสาย 2 ครั้งสัปดาห์นี้ 8.30 น. และ 9.45 น. ในขณะที่ต้องเข้างาน 8.00 น. ตรง

ผมขอให้มาทำงานให้ตรงเวลานะ แล้วเริ่มประชุม ตอน 8.15 น. ตามที่เคยตกลงไว้ คุณเป็นคนสำคัญที่จะใส่ ความคิดสร้างสรรค์ให้กับทีมงาน คุณทำได้ไหม คิดเห็นอย่างไร

3.ปิดกั้นความคิดเห็น และไอเดียของลูกน้อง

หลายครั้ง หัวหน้าหลายๆ คน ก็มักชอบพูดทำนองว่า “ไอ้ที่เสนอมามันก็ดีนะ แต่ว่าก็ลองกันมาหมดแล้ว มันไม่เวิร์ค อย่าเสียเวลาเลย” ฯลฯ ประโยคแบบนี้เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่หัวหน้าต้องหยุดพูด เพราะหน้าที่ของหัวหน้าที่ดีคือ ต้องพย าย ามสร้างสรรค์ให้ลูกน้องกล้าพูด

กล้านำเสนอ “Encourage People to bring their brain to work.”ต้องสนับสนุนให้ทุกคนใช้ส มอง ในการทำงานไม่ใช่หัวหน้าเก็บเอาไว้ คิดคนเดียว ทำทุกอย่างคนเดียว เอา Task List เอางานกลับไปทำที่บ้านคนเดียว จนเหนื่อยท้อ

หัวหน้าที่ดีจะต้องสนับสนุน ให้ทุกคนทำงาน เพื่อให้เขาเติบโตเพราะเขาเองก็สามารถทำได้ดี และอย ากทำให้ดีที่สุดในอาชีพของเขาด้วยเหมือนกัน

4.ทำให้ความผิดของพนักงานส่วนน้อย กระทบกับบรรย ากาศการทำงานโดยภาพรวม

เช่นในกรณี แค่เรื่องมาสาย ของลูกน้องคนเดียว แต่เราโกรธมาก เพราะรู้สึกว่าเขาไม่รับผิดชอบ เห็นแก่ตัว จึงออกคำสั่งกับลูกน้องทุกคนว่า “การมาสายเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง ต่อไปนี้ทุกคนต้องมาทำงานให้ตรงเวลาไม่เช่นนั้นจะถูกลงโทษอย่างรุนแ รง”

พร้อมกับส่งอีเมลกำชับ ให้ทราบโดยทั่วกัน การกระทำลักษณะนี้ ของหัวหน้า ถือเป็นการเอาความผิดเล็กๆ ของคนๆ เดียวมาเหมารวมทุกคน ทำให้เป็นเรื่องใหญ่เอาความผิดของคน 1 คนมาทำล าย ขวัญ กำลังใจ และบรรย ากาศในการทำงานจนหมดสิ้น

ซึ่งทำให้เกิดความรู้สึกไม่ดีกับลูกน้องทุกคนเป็นวงกว้าง เวลาที่เราต้องการจะปลุกใจคน ดึงพลั งของคนขึ้นมาบรรย ากาศถือเป็นเรื่องสำคัญมาก เราบังคับให้ม้ากินน้ำไม่ได้ แต่เราจูงม้าไปที่แม่น้ำ และสร้างบรรย ากาศให้ม้าอย ากกินน้ำได้

ด้วยการทำให้เห็นม้าตัวอื่นกินน้ำ กินน้ำแล้วมีความสุข จนเกิดความอย ากกินตามไปด้วยเพราะ ฉะนั้น หน้าที่ของหัวหน้าจึงต้องพึงระวังคำพูด รวมถึงท่าทางและน้ำเสียงของตัวเอง

เพื่อรักษ าบรรย ากาศที่ดีในการทำงานเอาไว้ให้ได้ รักษ าขวัญและกำลังใจของลูกน้องเอาไว้ให้ได้

5.กล่าวคำชมเชยแบบไม่เฉพาะเจาะจง

บางครั้งหัวหน้า ก็อย ากสวมบทบาท เป็นนางฟ้าที่คอยชื่นชมให้กำลังใจพนักงาน แต่คำชมของเราบางทีก็กว้างเกินไป ไม่เฉพาะเจาะจง จนบางครั้งลูกน้องรู้สึกว่า “หัวหน้าเสแสร้ง” เช่น Oh! Nice job everybody, today you did a good job. “วันนี้ทุกคนทำดีมาก โอ้ ประเสริฐ ยอดเยี่ยม”

คำชมทำนองนี้ มีลักษณะกว้างเกินไป ควรปรับให้มีความเฉพาะเจาะจงลงไปเลย เช่น วันนี้ตอนที่น้องแก้ปัญหา ให้ลูกค้า น้องใช้เทคนิคการแก้ปัญหาที่ตอบโจทย์ลูกค้า ได้ตรงประเด็น น้องใช้น้ำเสียงไพเราะ ยิ้มแย้มแจ่มใส พี่ขอบคุณมากนะคะ เป็นต้น

การกล่าวคำชม แบบเฉพาะเจาะจง พฤติกรร ม จะทำให้เกิดการทำซ้ำแล้วซ้ำอีกในวิธีการทำงานที่ถูกต้อง ซึ่งส่งผลดีต่อประสิทธิภาพในการทำงานมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ เวลาที่หัวหน้าสั่งงาน ก็ควรสั่งให้ชัดเจน เพราะบางที เราก็โมโห เพราะความไม่ชัดเจนของเราเอง เช่น ส่งงานพี่พรุ่งนี้เช้านะทุกคน พรุ่งนี้เช้าต้องได้งานทันทีแต่คำว่าพรุ่งนี้เช้าก็ไม่ชัดเจนว่า คือกี่โมง

พอ 9 โมงเช้าไม่มีใครมาส่งงาน ที่โต๊ะเราก็หงุดหงิดโมโห ทั้งที่จริง ๆ แล้ว 10 โมง หรือ 11 โมง ก็ยังถือว่าเช้าได้อยู่

ดังนั้น ในการสั่งงานของหัวหน้า จึงควรระบุให้ชัดเจนเพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาด

เช่น ส่งงานพร้อมกัน ที่โต๊ะพรุ่งนี้เช้า ก่อน 8.00 น. เป็นต้น ลูกน้อง จะทำงานได้ดีแค่ไหน ดึงเอาศักยภาพของตัวเองออกมาสร้างผลงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงใด หัวหน้าถือเป็นบุคคลที่มีความสำคัญอย่างมากโดยเป็นได้ทั้งคนที่คอยส่งเสริมและคอยบั่ น ทอน

ในเวลาเดียวกัน ขึ้นอยู่กับว่าดูแลแนะนำ และปฏิบัติต่อลูกน้องอย่างเหมาะสมหรือไม่ ดังนั้น ในทุก ๆ สถานการณ์ของการทำงานหัวหน้า จึงมีหน้าที่เสริมสร้างพลั ง ให้กับทีมลูกน้องทุกคน

โดยต้องคอยหลีกเลี่ยง พฤติกรร ม ไม่ดีที่จะส่งผลเสียบั่ น ทอน ไฟและกำลังใจในการทำงานของลูกน้องให้ได้มากที่สุด

ขอขอบคุณ panjit

Load More Related Articles
Load More By verrysmiles smiles
Load More In ข้อคิดดีๆ

Check Also

6 คำถามดีๆ ที่พ่อแม่ควรถาม ก่อนลูกจะนอน

หลังจากเด็กๆ ทำกิจกรรมมาทั้งวัน เวลาพักผ่อน ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ จะสามารถแส…