
1. เรามีความสามารถที่ยังไม่ได้ใช้
ใน ย า ม ที่หนี้สินท่วมหัวหันไปทางไหน ก็ไม่มีใครยื่นมือมาช่วย อาจเพราะได้ขอความช่วยเหลือ
จากผู้อื่นรอบตัวเสียหมดแล้วภาระที่มีช่างมากเหลือเกินทำงานแสนเหน็ดเหนื่อย เงินที่ได้มาในแต่ละเดือน
ลำพังจะใช้สอยกับเรื่องจำเป็นแทบไม่พอแล้ว ยังต้องเจียดบางส่วนมาใช้หนี้อีกทุกอย่าง
ดูมืดแปดด้านไปเสียหมดอย าก ให้คุณทบทวนถึงความสามารถของตัวเองว่าทำอะไรได้บ้าง
อาจเป็นความชอบส่วนตัว หรืองานอดิเรกเช่น ย า ม ว่างคุณชอบปลูกต้นบอนไซไว้ที่บ้านอาจลอง
เพาะพันธุ์ต้นบอนไซเพิ่มให้มีจำนวนมากขึ้น และนำไปขายในอินเตอร์เน็ทหรือขายตลาดนัดวันหยุด
วิธีนี้อาจทำให้คุณมีรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิมจนพัฒนาเป็นอีกชีพหลักได้ในที่สุด
2. ปล่อยวางแล้วมุ่งมั่นกับเป้าหมาย
เมื่อคุณคิดทบทวนจนสามารถ ยอมรับกับปัญหาได้แล้วคงจะผ่ อ นคลายความทุกข์ลงได้บ้าง
ไม่มากก็น้อย หลังจากนั้นขอให้คุณปล่อยวางปัญหา ลงเราไม่จำเป็นต้องแบกภาระ
ทุกอย่างไว้บนบ่าตลอดเวลา ไม่เช่นนั้นจะเอากำลังเรี่ยวแรง ที่ไหนก้าวเดินต่อไปข้างหน้าได้
จากนี้ขอเพียงมุ่งมั่นที่จะปลดหนี้สินแล้วใช้ชีวิตอย่างเข้มแข็ง จงมอบความเชื่อมั่นให้แก่ตัวเอง
อย่างเต็มที่ให้กำลังใจตัวเอง ว่าตัวเรายังทำอะไรได้อีกมากมายขอเพียงไม่เกียจคร้าน
และมีวินัยในการใช้เงินก็จะทำให้เราสามารถบริหารรายรับ-รายจ่ายได้อย่างสมดุลและ
เหลือเงินไปผ่ อ นชำระหนี้หากคุณยึดเอาสติปัญญาเป็นที่ตั้งแล้วเชื่อว่าต้องเอาตัวรอด
ให้ผ่านพ้น วิ ก ฤ ต ชีวิตครั้งนี้ได้อย่างแน่นอน
3.ต้องกล้าที่จะยอมรับความความจริง
เหนือสิ่งอื่นใดเมื่อชีวิตเกิดปัญหา เราต้องตั้งสติให้ได้เสียก่อนไม่คิดโทษตัวเอง
จนเกินเหตุเพราะการจมอยู่กับปัญหาด้วยความคิดเดิมๆ นอกจากเราจะมองไม่เห็นทางออกแล้ว
ยังจะพาลทำให้จิตใจห่อเหี่ยว เ ศ ร้ า ห ม อ ง จิตตกจนไม่เป็นอันทำอะไรทั้งสิ้น
การเผชิญหน้ายอมรับความจริง ที่เกิดขึ้นคือสิ่งที่ดีที่สุดที่เราจะทำได้ เพราะหากไม่ยอมรับ
ถึงการกระทำของตัวเองให้ได้เสียก่อน ก็เป็นการ ย า ก ที่เราจะผ่านพ้นปัญหานั้นไปได้
การมีชีวิตอยู่กับปัจจุบันรู้ว่าเราทำอะไร อยู่และจะต้องทำอะไรต่อไปในอนาคตคือจุดเริ่มต้น
ของทางออกแห่งปัญหาเมื่อมีสติแล้ว การหาทางแก้ไขคงไม่ใช่เรื่องที่ ย า ก จนเกินไปนัก
ขอเพียงคุณมีกำลังใจที่ดี มีภูมิคุ้มกันและใช้สตินำทางอยู่เสมอ
4. ทบทวนถึงเหตุผลของการเป็นหนี้
เมื่อเรายอมรับความจริงได้แล้วว่ามีหนี้สินมากน้อยเพียงไร จากนั้นจึงควรทบทวน
ถึงต้นเหตุแห่งการเป็นหนี้ว่าทำไมเราจึงมีหนี้ก้อนนี้ขึ้นมาอาจเป็นการ กู้ ซื้ อ บ้านหลังใหญ่
เพื่อสร้างครอบครัว ซื้ อ รถยนต์เพื่อใช้ในครอบครัวหรือการ ซื้ อ อสังหาริมทรัพย์
เพื่อการ ล ง ทุ น เหล่านี้ล้วนเป็น “หนี้สิน” ที่ถือเป็นการสร้าง “ทรัพย์สิน”
ให้กับชีวิตแม้ว่าจะต้องแบกรับภาระก้อนโต และใช้เวลาหลายสิบปีกว่าจะ ผ่ อ น หมดได้
แต่ถือว่าเป็นการ ล ง ทุ น ที่คุ้มค่าเพราะในอนาคตสิ่งเหล่านั้นจะกลายเป็นสมบัติของเรา
และสามารถเป็นมรดกตกทอด ไปยังลูกหลานได้อีกด้วย หากคุณมีหนี้ในลักษณะนี้
ขอให้คุณทำใจให้สบายและ ปรับทัศนคติเสียใหม่จงเห็นคุณค่าในตัวเองให้มากขึ้น
อย่านึกเสียใจในการตัดสินใจ ซื้ อ เพราะมันคือหนี้สินที่คุณได้คิดไตร่ตรองมาแล้วเป็นอย่างดี
ขอขอบคุณ m o n e y h u b