
สำหรับชีวิตมนุษย์ การมีเพื่อนถือว่าเป็นเรื่องของสีสันในชีวิต ทำให้เราได้เรียนรู้ถึงมิตรภาพ ความห่วงใย ซึ่งกันและกัน ความสนุกสนานเมื่อได้อยู่ร่วมกันและการช่วยเหลือแบบอบอุ่นใจ พร้อมความจริงใจที่มอบให้กัน ทำให้เราคบหาเพื่อนจนกลายเป็นเพื่อสนิทที่แทบจะตัวติดกัน
ความรู้สึกของการมีเพื่อนจึงกลายเป็นความรู้สึกที่ดีและยังเป็นตัวช่วยให้คุณ เข้าสังคมขนาดใหญ่ได้ดีกว่าเดิมอีกด้วย แต่ถ้าวันหนึ่งที่คุณกลับต้องเจอเพื่อนที่ตรงกันข้าม กับที่กล่าวมาทั้งหมด แล้วคุณจะรู้สึกแบบไหนและจะทำกันอย่างไรคะ?
วันนี้เราจึงมีเพื่อน 11 ประเภทที่ควรคัดออกจากชีวิตมาฝากกันค่ะ
1. ไม่เคยเห็นเวลามีปัญหา
เบื่อไหมคะ? ที่ถึงแม้จะอยู่ด้วยกัน แต่เพื่อนของเรากลับมีความสุขอยู่ตัวคนเดียว มองไม่เห็นเพื่อนคนอื่น ไม่ใส่ใจความรู้สึกของคนอื่น ว่าเค้าสนุกด้วยหรือไม่ อยากดูหนังเรื่องนี้หรือเปล่า เพื่อนชอบแบบนี้ไหม ซึ่งในความเป็นจริงแล้วการเป็นเพื่อนกัน
เรามีพื้นฐานของความเสมอภาค ต้องพูดคุย แ ช ร์ ความรู้สึกกัน เข้าใจกัน และรับฟังกัน ถึงจะเรียกว่าสัมพันธภาพที่ดี เช่น ถ้าเพื่อนไม่ชอบดูหนังเรื่องนี้ ก็ควรคุยกันว่าแล้วหนังแบบไหนล่ะที่ชอบ
แล้วหาเรื่องที่น่าสนใจด้วยกันทั้งกลุ่มเพื่อไปดูร่วมกัน ให้สนุกสนานมากยิ่งขึ้น เป็นต้น ซึ่งถ้ามีเพื่อนนิสัยแบบที่กล่าวมาข้างต้นก็เตือนให้เขารู้ตัวก่อน แต่ถ้าไม่ดีขึ้นก็ควรคัดออกได้เลยค่ะ
2. นินทากันลับหลังซะนี่!!
สิ่งที่จะทำให้ความเป็นเพื่อนดู น่าผิดหวังมากที่สุด คือ การนินทากันเองลับหลังเนี่ยแหละค่ะ!! เพราะบางครั้งที่เราผิดหวัง ท้อแท้ คุยกับคนที่บ้านไม่ได้ เราก็ต้องการเพื่อนที่รับฟัง และให้กำลังใจเราได้จริงไหมคะ?
แต่ถ้าเพื่อนคนนั้นกลับเอาเรื่องที่เราทุกข์ใจหรือไม่อยากเล่าให้ใครฟัง ไปพูดและเล่าต่อให้คนอื่นฟัง โดยเฉพาะเพื่อนกลุ่มอื่นหรือคนรู้จักใกล้ตัวเราแค่คิดก็รู้สึก แ ย่ แล้วใช่ไหมคะ ถ้าเขาทำเพราะหวังดีต้องการให้เราแก้ปัญหาได้ก็ไม่เท่าไหร่
แต่ถ้าเจอแบบเอาไปนินทา ว่า ร้ า ย เล่าไปในทางที่ผิด ก็ยิ่งซ้ำเติมเราเข้าไปอีก คราวนี้เรื่องกระจายไปแบบไม่ถูกต้อง ก็ยิ่งเละเทะ แถมพอเกิดเรื่องก็ทำหน้านิ่งๆ พร้อมแถว่า ” ฉันไม่รู้นะ ไม่รู้เรื่องมันหลุดไปได้ยังไง เธอนั่นแหละไปบอกใครหรือเปล่า ” ถ้ามีเพื่อนแบบนี้แนะนำเขี่ยทิ้งทันทีค่ะ
3. วิจารณ์ย่อยยับ
ไม่ว่าเราจะแต่งตัวแบบไหน แต่งหน้าอย่างไรมาหรือดูมาเป็นอย่างดีแล้วว่าทำแบบนี้แหละ!! เหมาะสมกับตัวเราแล้ว แต่ก็ยังไม่วายโดนเพื่อนเอามาวิจารณ์กันอย่างสม่ำเสมอ
แถมแต่ละครั้งที่วิจารณ์ก็ไม่มีในแง่ดีเลยแม้แต่น้อย ทำให้ทุกครั้งที่ต้องมานั่งฟังเพื่อนผู้รู้ทุกสิ่งคนนี้ วิจารณ์ก็พาให้เหนื่อยและเบื่อ จนหมดกำลังใจ แถมพาให้ความมั่นใจในตัวเองขาดหายไปด้วย
หนักกว่านั้นคือดันเอาเราเปรียบเทียบกับตัวเพื่อนที่พูด โดยพูดทำให้เราดู แ ย่ ลงไปอีก ถ้ามีเพื่อนแบบนี้อยู่ก็ Say Bye! ได้เลยค่ะ
4. รวมกันทีไรรู้สึก แ ย่ ทุกที
มิตรภาพที่ดี โดยทั่วไป เพื่อนจะต้องเป็นคนที่อยู่เคียงข้างเราเสมอ ไม่ว่าจะเจอเรื่องดีหรือเรื่อง ร้ า ย ก็ต้องเข้าใจกันได้เสมอ โดยเฉพาะเวลาที่นัดรวมตัวกันเพื่อพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรือเพื่อสังสรรค์อย่างสนุกสนานตามประสาเพื่อน
แต่ถ้าต้องไปเจอบรรยากาศ ที่เพื่อนบางคนทำตัวไม่สนุกไม่พอ ยังทำให้รู้สึกอึดอัด ชอบพูดขัดคอ หรือพูดทำให้บรรยากาศเสีย ยิ่งมาอยู่รวมกับเพื่อนคนอื่นๆ ก็ยิ่งทำให้บรรยากาศ เ ล ว ร้ า ย ถ้ามีเพื่อนลักษณะแบบนี้ก็เตรียมตัวเขี่ยทิ้งได้จ้า
5. ยกเลิกกลางคันตลอด!!
เคยเจอไหมคะ? เวลาจะนัดกัน ไปไหนแต่ละครั้ง จะมีเพื่อนคนนึงที่รับปากเป็นมั่นเหมาะเสมอ พอถึงเวลาใกล้วันจริงก็กลับไม่ไปซะงั้น! บอกล่วงหน้าวันถึง 2 วันไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่บางคนนี่เหลือแค่ไม่กี่ ชั่ ว โมง โทรมาบอกเพื่อนว่าไม่ไปแล้ว ติดธุระ บลาๆๆๆ
หรือบางครั้งก็เป็นคนนัดเอง โทรชวนเพื่อนๆ เองเสียด้วยซ้ำ แต่สุดท้ายก็กลับยกเลิกนัดซะเอง เพื่อนแบบนี้ เราควรหลีกให้ห่าง เพราะเขาได้ทำให้เห็นว่าเขาไม่ได้ใส่ใจต่อการคบหา
และไม่คิดจะพยายาม รั ก ษ า สัมพันธ์ความเป็นเพื่อนไว้เสียด้วยซ้ำ เพราะมักคิดว่าเวลาของเพื่อนไม่มีความสำคัญ ยกเลิกไปก็ไม่มีปัญหาหร้อกกก!!
6. ยกแต่เรื่องที่ผ่านไปแล้วมาพูด
เพื่อนที่อาจจะเคยคบกันมาก่อน แต่เมื่อหวนกลับมาเจอกันใหม่อีกครั้ง ที่มหาวิทยาลัยหรือที่ทำงาน แล้วชอบยกเรื่องเก่าๆ หรือเรื่องในอดีตมาพูดนี่ก็ไม่ไหวนะคะ แถมชอบพูดว่าในอดีตเราเหมือนกันอย่างงั้น อย่างงี้ ใส่เพื่อนคนอื่น
เพื่อให้รู้ว่า ” ฉันน่ะสำคัญนะ ” ถึงแม้ว่าจะเคยคบกันหรือรู้จักกันมาก่อน และมีมิตรภาพที่ดี มีความชอบที่เหมือนกันในอดีตก็จริง แต่เมื่อใดที่มีเพื่อนใหม่ๆ เข้ามา เราก็ย่อมต้องการจะเรียนรู้เพื่อนใหม่
แต่ยังคง รั ก ษ า น้ำใจเพื่อนเก่าไว้ พร้อมต้องการให้เพื่อนเก่าและเพื่อนใหม่อยู่ร่วมกัน อย่างมีความสุข แต่ถ้าเพื่อนเก่าเรางี่เง่าและยังคงทำนิสัยพูด
แต่เรื่องเก่าๆ ให้เพื่อนใหม่รู้สึกเหมือนเป็นคนนอก ก็ควรเตือนกันก่อน แต่ถ้าอาการหนักและไม่ไหวจริงๆ ก็คงต้องเนียนๆ ตีจากกันแล้วค่ะ
7. เริ่มรู้สึกไม่น่าเชื่อถือ
เมื่อใดที่เราเริ่มรู้สึกว่าเพื่อนคนใด ในกลุ่มมีพฤติกรรมที่ไม่น่าไว้วางใจ ให้ความเชื่อถือไม่ได้ มีเรื่องอะไรกันในกลุ่มก็ชอบเอาออกไปบอกคนนอกกลุ่ม เอาเรื่องของเพื่อนไปนินทาให้คนอื่นฟัง เข้ามายุ่งเรื่องส่วนตัวของเพื่อนคนอื่นมากเกินไป ทำตัวเหมือนหวังดี
แต่สุดท้ายก็มักชอบสร้างปัญหา และอาจจะมีอาการที่ชอบยุแหย่ ให้เพื่อนในกลุ่มทะเลาะกันเองอีก ถ้าเจอเพื่อนแบบนี้ไม่ควรเก็บไว้ในกลุ่มนะคะ ควรเขี่ยออกไปทันทีเลยค่ะ
8. ชอบกดดัน
เพื่อนที่ชอบเจ้ากี้ เจ้าการชีวิตเพื่อนตัวเอง ชอบกดดันให้เราทำในสิ่งที่เราไม่ชอบ หรือทำในเรื่องที่เราไม่ค่อยพอใจบ่อยครั้ง ชอบคิดแทนและชอบคิดว่ามุมมองของตัวเองดีที่สุดแล้ว
ที่สำคัญคือเพื่อนคนอื่นๆ ก็ต้องเชื่อ ถ้าไม่เชื่อก็โวยวาย อ า ล ะ ว า ด ไม่ก็สร้างความวุ่นวายให้กับเพื่อนๆ เจอคนแบบนี้ควรถอยให้ห่าง
เพราะเท่ากับว่าเขาไม่เคารพต่อ ความต้องการของเพื่อนคนอื่นและอาจสร้างความเดือดร้อนให้กับเพื่อนๆ จากความไม่พอใจของตัวเองได้อย่างน่ากลัวอีกด้วย
9. เสียเวลาส่วนมากไปกับเพื่อนคนนี้
เพื่อนบางคนไม่มีความมั่นใจทำอะไร ก็ต้องโทรหาเพื่อนด้วยกัน ซึ่งถ้าโทรมาขอกำลังใจหรือขอคำแนะนำต่างๆ จากเพื่อนแบบธรรมดาก็คงไม่มีปัญหา แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่โทรมาไม่หยุดและการโทรแต่ละครั้ง ก็ใช้เวลานานอย่างมาก จนทำให้เรารู้สึกเสียเวลาไปกับเพื่อนคนนี้อย่างเปล่าประโยชน์
ที่สำคัญคือเพื่อนประเภทนี้จะโทรหาคุณทุกวัน แบบไม่สนใจด้วยว่าคุณจะมีธุระ หรือมีปัญหาอะไรอยู่หรือไม่ เจอแบบนี้คิดว่าจะคบต่อไหวไหมคะ
10. อย่าคบเพราะแค่ไม่อยากเหงา
เรื่องนี้ เกี่ยวกับตัวเราเองค่ะ อย่าคบเพื่อน แ ย่ ๆ เพราะเพียงแค่รู้สึกว่าไม่อยากเหงา โดยเฉพาะเป็นเพื่อนที่คบกันมาตั้งแต่เด็ก ก็เลยรู้สึกว่าหยวนๆ กันไป จะนิสัย แ ย่ แค่ไหน เอาเราไปนินทาเท่าไหร่
เข้ามายุ่งกับชีวิตส่วนตัวเรา มากเกินไปแค่ไหน หรือแม้แต่เอาของเราไปใช้ ยืมเงินแล้วยอมคืน คุณก็ยังทนได้เพราะกลัวตัวเองจะเหงา กลัวจะไม่มีเพื่อน
การทำแบบนี้ยิ่งไปส่งเสริมให้เพื่อนของคุณเสีย นิสัยหนักขึ้นเรื่อยๆ และแม้แต่ตัวคุณเองก็อาจจะไปติดนิสัยเสียๆ ของเพื่อนคนนั้นมาอีกด้วย
11. ต่างกันมากเกินไป
เพื่อนบางคนต่างกันคนละขั้ว แต่ก็กลับคบกันได้ด้วยดี แต่สำหรับบางคนแล้วไม่ใช่เลย
ความสัมพันธ์ที่ดีอาจจะกลายเป็น เ ก ลี ย ด กันด้วยซ้ำ เพราะมีความต่างที่มากเกินไป และต่างจนไม่สามารถจูนกันติดได้
หนักกว่านั้นคือทำอะไรก็ไม่ถนอมน้ำใจกัน ไม่พยายามจะพยุงมิตรภาพ ซึ่งกันและกัน เวลาทะเลาะหรือมีปัญหาก็ไม่หันหน้ามาคุยกัน มั่นใจมากว่าต่างคนต่างถูก แบบนี้ยากมาก ที่จะคบกันรอด ถ้ามันจะต่างกันขนาดนี้ก็แนะนำว่าแยกกันไปเถอะค่ะ!!
ความเป็นเพื่อนคือการได้เรียนรู้ ซึ่งกันและกัน เวลาอยู่ด้วยกันก็ทำให้เกิดเสียงหัวเราะและรอยยิ้ม สร้างคุณค่าของการคบหา ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
ดังนั้นถ้าคุณคิดว่าคุณมีเพื่อนทั้ง 11 แบบที่กล่าวมา ก็ลองพิจารณาดูค่ะ ว่าคุณจะเตือนให้เขากลับมาเป็นเพื่อนที่ดีได้หรือไม่และอย่าลืมเช็กตัวเองด้วยนะคะ
ว่ามีนิสัยเป็นเพื่อนทั้ง 11 แบบนี้หรือไม่ เพราะถ้าใช่คุณก็ควรพิจารณาตัวเอง เพิ่มด้วยแล้วล่ะค่ะ
ขอขอบคุณ s i s t a c a f e