
เป็นหนึ่งในเรื่องราว ที่อยากให้ทุกคนได้อ่านกัน เป็นเรื่องราวที่ซาบซึ้งและเหลือเชื่อมากๆ หากคุณได้อ่านบทความนี้จบแล้ว คุณจะได้ข้อคิดดีๆและความคิดหลายๆ อย่าง ที่มีอยู่ในตัวคุณจะเปลี่ยนไปในสิ้นเชิงสำหรับหลายๆ ท่าน ที่เลี้ยงดูพ่อแม่ในทุกวันนี้ แต่ว่าไม่ได้ให้เงินทองพ่อแม่ไว้ใช้เลย
เราอาจจะคิดว่าเราเลี้ยงดูแลท่านอยู่ทุกวันอยู่แล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างเราเตรียมให้พร้อมอยู่แล้ว ทำไมต้องให้เงินด้วย อยากให้ทุกคนได้ ลองอ่านบทความเหล่านี้ดู ความคิดของคนที่มีอยู่จะเปลี่ยนไปเรื่องมีอยู่ว่าอาจารย์ของผมท่านได้ให้เงินเดือนพ่อและแม่เดือนละ 1,000 บาทเป็นประจำทุกเดือน
ทำมาโดยตลอด ผมมีความสงสัยว่าทำไม ต้องให้เงินเดือนพ่อแม่เดือนละ 1,000 บาท ในเมื่อพ่อแม่ก็อยู่บ้านหลังเดียวกับอาจารย์อยู่แล้ว ค่าใช้จ่ายสำหรับท่าน อาจารย์ก็คนดูแลทั้งหมดวันหนึ่งที่มีโอกาสผมจึงตัดสินใจถามอาจารย์ว่า “อาจารย์กำลังทำอะไรครับ?”
อาจารย์ตอบว่ากำลังตัดรายจ่ายอยู่ ผมต้องจ่ายค่าแม่ครัว คนสวน คนขับรถ ค่าใช้จ่ายในบ้านต่างๆ และให้แม่อีกเดือนละ 1,000 บาท แต่ในตอนนี้รายได้กับรายจ่าย มันไม่ค่อยมีความสัมพันธ์กัน จึงอยากจะตัดรายจ่ายลงบ้างผมเลยบอกว่า “เงินเดือนที่ให้แม่ 1,000 ตัดได้นี่ครับ?
อาหาร 3 มื้อ อาจารย์ ก็จัดให้ท่านเรียบร้อย เสื้อผ้าก็ซื้อให้ใหม่ปีละ 3 ชุด ไม่สบาย อาจารย์ก็พา ห ม อ มา ฉี ด ย า ให้ คุณแม่ ต า บ อ ด ไม่ได้ไปไหน ฉะนั้นเงินเดือน 1,000 นี่ ตัดได้ครับ”อาจารย์บอกว่า “ตัดไม่ได้เด็ดขาด 1,000 บาท นี่สำคัญที่สุด เพราะเป็นเงินสำหรับเลี้ยงหัวใจแม่!”
ผมฟังแล้วสะอึก! “เงินเลี้ยงหัวใจแม่”? พวกเราเคยได้ยินไหมครับ? อาจารย์ท่านได้บอกต่ออีกว่า หัวใจของคนเราต้องการอาหารที่มาหล่อเลี้ยง ให้เบิกบาน เป็นสุข คุณลองนึกดู คนที่เขาไม่มีเงินอยู่ในตัวเลยนี่จะเป็นอย่างไร หัวใจมันจะเหี่ยวเฉา เหมือนกับดอกไม้ยามเย็น
ใครที่ได้เป็นมนุษย์เงินเดือนจะพอรู้ พอเลยวันที่ 25 ไปแล้วมันจะเริ่มเหี่ยวแห้งยังไงชอบกลไม่รู้ ไม่มีแม้แต่เงินค่ารถ ไม่มีแม้แต่เงินซื้ออาหาร ซื้อข้าวสารมากิน มันไม่มีความสุขจนไปถึงสิ้นเดือน แม่อยู่กับเราก็จริง แต่ถ้าแม่ไม่มีเงินอยู่ในมือหัวใจท่านห่อเหี่ยว
พอถึงวันเงินเดือนออกทุกคนน่าเบิกบาน เหมือนดอกไม้ในยามเช้า ได้รับเงินเดือนมาใหม่ๆ น่าจะมีความสดใสขึ้นทุกสิ้นเดือนพอเงินเดือนออก ผมเข้าไปสวัสดีแม่ บอกแม่ว่า วันนี้เงินเดือนออกครับ ผมเอาเงินใส่มือแม่ 1,000 บาท แม่ก็ให้พร เเล้วเก็บเงินไว้ใต้ ห ม อ น ไว้อย่างมีความสุข
1,000 บาท เลี้ยงหัวใจแม่อย่างไร?
วันหนึ่งน้องของอาจารย์ พาภรรยาไปคลอดลูก คุณแม่ก็ซื้อทองให้หลานด้วยเงิน 1,000 บาท ที่เก็บสะสมไว้ ท่านกอดหลานสาว สวมสร้อยให้พร้อมให้พรพอเด็กคนนี้โตพอพูดได้ มีคนถามว่าสายสร้อยนี้ใครซื้อให้ เด็กก็จะตอบว่า “คุณย่าซื้อให้” ชี้มือไปที่คน ต า บ อ ด คนที่ใหญ่ที่สุดในบ้าน
คือ คุณย่าไม่ใช่พ่อแม่ เพราะเงิน 1,000 บาทนี่ทำให้คน ต า บ อ ด ดูน่าเกรงขราม ถ้าคุณแม่ไม่มีเงิน จะรับขวัญหลานได้อย่างไร?ไม่ใช่ว่าพอโตขึ้น มีคนถามว่า คนนี้เป็นใคร เด็กบอกว่ายาย แก่ ต า บ อ ด ที่มาอาศัยพ่อแม่ฉันอยู่
เห็นหรือยังคุณว่าเงินเดือน 1,000 บาทนี่ทำให้คนแก่ ต า บ อ ด มีคุณค่าขึ้นมาได้วันดีคืนดี แม่ครัวล้างชามเสร็จ คุณแม่ก็บอกให้มานวดขาให้ แม่ครัวหน้ามุ่ยทำงานเหนื่อย ยังต้องมานวดให้อีก นั่งขยำๆ คว่ำหน้า พอนวดเสร็จคุณย่าหยิบเงินให้ 100 บาท แม่ครัวยิ้มหน้าบาน ยกมือไหว้ ขอบคุณค่ะ
วันรุ่งขึ้นพอล้างจานเสร็จ รีบวิ่งมานั่งใกล้ๆ วันนี้นวดอีกไหมคะคุณย่า? เห็นไหมเงินเดือน 1,000 บาท ที่เราให้แม่ของเรามีฤทธิ์ขึ้นมา ได้มีคนมายกมือไหว้ มีคนมาปรนนิบัติ มีคนมานวดให้ ถ้าไม่มีเงินเดือน 1,000 บาท นี้แม่เราจะมีฤทธิ์ได้อย่างไร?บันไดไปสวรรค์ด้วยเงิน 1,000 บาท
วันหนึ่ง กำนันมาที่บ้านอาจารย์หารื่อจะปรับปรุงห้องน้ำวัด ที่ชำรุดทรุดโทรม แม่อาจารย์ได้ยินกวักมือเรียกอาจารย์ แล้วคุณแม่ยก ห ม อ น ขึ้น นับเงินมา 5,000 บาท บอกเอาไปให้กำนันปรับปรุงห้องน้ำเห็นมั๊ยว่าเงินเดือน 1,000 บาทที่เราให้ เป็นบันไดพาแม่ไปสวรรค์?
นี่ถ้าแม่ไม่มีเงินในมือแม่จะได้ทำบุญไหม? พอกำนันรับเงินเสร็จ ก็เดินผ่านไปบ้านถัดไป ลุงแก่ๆ บ้านโน้นก็กำลังเก็บผ้า อยู่ในบ้าน กำนันตะโกนข้ามรั้ว ทำบุญสร้างส้วมไหมลุง? ลุงข้างบ้านตอบ “ลุงไม่มีเงินหรอก ลุงอาศัยลูกสาวเขาอยู่ เดี๋ยวเผื่อลูกสาวเขากลับมาทันจะขอเงินเขาทำบุญ”
เพราะลูกเค้าไม่ได้ให้เงินเดือนลุง ลุงคนนี้เป็นเพียงแค่ คนเก็บผ้าของลูกๆ ลุงคนนี้ไม่มีเงิน เพราะลูกเอามาเลี้ยงเอาไว้คอยเก็บผ้าเป็นยังไงบ้าง..เห็นอิทธิฤทธิ์ของเงิน 1,000 บาท ไหม? นี่แหละ เป็นที่ว่าทำไม่ถึงเรียกว่า ”เงินเลี้ยงหัวใจแม่”
ขอขอบคุณ g i f t c o d e d.i n f o