
1. บ้ า อำ น า จ ขั้ น สุ ด!
สำหรับผู้บริหาร ขอให้ทบทวนตัวเองสักหน่อยว่า.. คุณเป็นนายประเภท “ต้องทำตามที่บอกเท่านั้น” หรือไม่ ?..ถ้าใช่ ก็ขอให้รู้ไว้ตรงนี้เลยว่า คุณกำลังปล่อย พิ ษ ร้ า ย ขั้น
รุ น แ ร งแก่องค์กรเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อไหร่ที่องค์กรขับเคลื่อนด้วย “ความกลัว” ไม่ว่าจะกลัวมีความผิด กลัวถูกตำหนิ กลัวถูกหักเงินเดือน กลัวโดนประจาน หรืออะไรก็ตาม
แต่มันไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่อนโดยเฉพาะถ้าเทียบกับการขับเคลื่อนองค์กรด้วย พ ลั ง บ ว ก ที่ใครๆ ก็อยากแสดงความคิดเห็น อยากทดลองทำอะไรใหม่ๆ โดยไม่ต้องกลัวว่าถ้า
ทำพลาดไปแล้วจะโดนด่า ความกระตือรือร้นของพนักงานย่อมต่างกันอย่างแน่นอนแม้ว่ามันจะง่าย เวลาจะสั่งหรือคอนโทรลอะไร ๆ โดยใช้ “ความกลัว” เป็นแรงขับแต่คุณก็ต้อง
แลกกับการทำให้องค์กรไม่มีชีวิต ไร้ความคิดสร้างสรรค์ ทุกคนอยู่อย่าง ห ว า ด ร ะ แ ว ง กลัวว่าถ้าทำผิดแล้วจะโดนดุองค์กรประเภทนี้ ไม่มีทางสร้างอะไรดีๆ ขึ้นได้อย่างแน่นอน!
2. หลงตัวเองสุดขอบโลก
การเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาล ไม่เพียงทำให้เสียโอกาสที่จะได้สร้างสรรค์สิ่งใหม่แล้ว คุณยังขยี้ “ใจ” ที่อยากจะทำงานของคนอื่นๆ ลงจนป่นปี้ !.. อ่ า น มาถีงตรงนี้
ถ้าใครทบทวนตัวเองแล้วคิดว่า ตรงกับตัวเองอยู่บ้าง ก็ขอให้เลิกนิสัยเสียๆ เหล่านี้ให้ได้ ก่อนที่อะไรๆ จะ แ ย่ จนเกินแก้ยิ่งโดยเฉพาะผู้ประกอบการเจ้าของกิจการทั้งหลาย
อย่าคิดว่าเป็นเจ้าของแล้วจะทำอะไรก็ได้ ลองทบทวนตัวเองและเปลี่ยนเสียก่อนที่ธุรกิจพังคามือเพราะไม่ยอมเลิกพฤติกรรม แ ย่ ๆ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน!
3. หงุดหงิด ขี้บ่น
ไม่มีใครชอบคนที่มองอะไรก็เห็นแต่เรื่อง แ ย่ ๆ โดยเฉพาะถ้าเห็นแล้วก็มีแต่บ่น ก็จะยิ่งทำให้คนรอบข้างรู้สึก แ ย่ ไม่อยากจะทำหรือพัฒนา แก้ไขให้อะไรๆดีขึ้นถ้าคุณมัวแต่หมด
พ ลั ง ง า น ไปกับการบ่นหรือคร่ำครวญ นั่นหมายถึง คุณเอาแต่เติม พ ลั ง ล บ ให้กับตัวเอง และในขณะเดียวกัน คุณก็กำลังทำให้ไม่มีใครอยากเข้าใกล้คุณอีกด้วย
4. โ ม โ ห ร้ า ย ความฉลาดทางอารมณ์ต่ำ
ต่อให้คุณมี IQ ฉลาดระดับไอน์สไตน์ก็อาจไม่สามารถอยู่รอดในสนามธุรกิจได้ถ้าขาด EQ หรือ Emotional Quotient ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญมากเพราะจะช่วยให้ความสัมพันธ์
กับคนรอบข้างเป็นไปอย่างราบรื่นผลเสียของการมีความฉลาดทางอารมณ์ต่ำเป็นได้ตั้งแต่การสอบตกเรื่องทักษะการ
สื่ อ ส า ร ทำ ล า ย ความน่าเชื่อถือของตัวคุณเอง
ทำให้คนอื่นๆ รู้สึกไม่เชื่อมั่นในตัวคุณ ไปจนถึงเป็น พิ ษ ต่อธุรกิจ ส่งผลกระทบต่อทุกคนที่คุณติดต่อด้วยคนที่มี EQ ดีจะสามารถเข้าอกเข้าใจคนอื่นรู้ทันอารมณ์ของตัวเอง
รวมถึงรับรู้ถึงอารมณ์และความต้องการของคนรอบข้างได้อย่างดี ทำให้คุณรู้วิธีที่จะสร้างแรงจูงใจให้เพื่อนร่วมงานหรือพนักงานทำในสิ่งที่คุณต้องการ..ยิ่งมี EQ ดีมากเท่าไหร่
ก็จะยิ่งสามารถสร้างทีมเวิร์กในฝันให้เกิดขึ้นได้เท่านั้น
5. ใจแคบเท่าพุงมด
ในสถานการณ์ที่เกิด “ความผิดพลาด” คุณมักจะได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของใครบางคนเสมอคนบางคนก็มักจะชี้นิ้วใส่คนอื่นเวลามีอะไรผิด แล้วเขาก็มักจะมีคำตอบให้กับทุกเรื่อง
ที่สำคัญคือ เชื่อแบบผิดๆ ว่าความคิดของตัวเองถูกเสมอ และไม่ค่อยจะยอมฟังใครซึ่งมันน่าจะดีกว่า ถ้าคุณจะยอมเปิดใจรับฟังคนอื่นบ้างเพราะการได้ถกเถียง รับฟังความเห็นกัน
มันสามารถสร้างทีมเวิร์กที่ดีได้ ถึงแม้ว่า บทสรุปในตอนท้ายไอเดียของคุณจะยังเป็นทางดีที่สุดก็ตาม
6. ใจเขาใจเราคืออะไร.. ไม่รู้จัก!
สำหรับใครที่ชอบนึกดูถูก มองไม่เห็นหัวใคร หรือพูดถากถางคนอื่นบ่อยๆ จนติดเป็นนิสัย ขอบอกให้รู้เลยว่า คุณกำลังทำสิ่งที่ แ ย่ และน่ารังเกียจมากในความเห็นของคนอื่น
หนำซ้ำพฤติกรรมแบบนี้ยังอาจส่งผลไปถึงการบ่อน ทำ ล า ย องค์กรเลยก็ได้นะ!นิสัยปากเสียทำให้คุณดูเป็นคนเกรี้ยวกราดไม่น่าเข้าใกล้ในทางกลับกัน การรู้จักเอาใจเขา
มาใส่ใจเรา รู้จักเข้าอกเข้าใจคนอื่นก็จะดึงดูดให้ใครๆ ก็อยากเข้าหาคุณ เพราะมันทำให้พวกเขารู้สึกดี รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าถ้าเป็นลูกน้องเขาจะยอมทำงานถวายหัวให้กับคุณ หรือ
ถ้าเป็นลูกค้า เขาก็จะรู้สึกดีที่คุณใส่ใจ และอยากกลับมาใช้บริการบ่อยๆ จนกลายเป็นท็อปแฟนของคุณได้อย่างไม่ยาก
7. มนุษย์เพอร์เฟคชั่นนิสต์ ยอมไม่ได้ ถ้าเห็นอะไรไม่เป็นอย่างที่คิด
สำหรับมนุษย์เงินเดือนทั้งหลายที่บ่นโอดโอยว่างานหนัก ลองนึงถึงหน้าบอสสุดที่รัก แล้วคิดถึงข้อดีอื่นๆ ของเขาดู ถ้าบอสของคุณไม่ใช่ประเภท บ้ า อำ น า จ ต้องการคอนโทรล
ทุกสรรพสิ่งให้เป็นไปอย่างที่ใจคิด ก็ต้องบอกเลยว่า คุณยังโชคดีกว่าอีกหลายคนมากนักในทางกลับกัน คุณบอสทั้งหลาย ก็ขอให้ลองทบทวนตัวเองดูสักหน่อยว่าคุณเป็นนาย
ประเภทไหนคุณยอมรับได้หรือไม่ ถ้าเห็นอะไรๆ ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด หรือไม่เพอร์เฟคต์อย่างที่ใจอยากให้เป็นถ้าคุณเห็นแล้วรับไม่ได้ จนถึงขั้นหงุดหงิดสุด ๆแล้วล่ะก็..คงจะถึงเวลา
ที่คุณต้องปรับเปลี่ยนตัวเอง ทำใจยอมรับกับอะไรๆ ที่ไม่ได้เป็นไปตามแผนดูบ้าง
8. ไม่รู้จักอดทนเอาเสียเลย
หนึ่งในตัวแปรที่จะส่งผลให้ธุรกิจประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวนั้น หัวใจสำคัญก็คือ การรู้ว่าตอนไหนควรจะกระโดดหรือตอนไหนควรจะตั้งหลักให้มั่นถึงแม้ว่า ความแอ็คทีฟ
กระตือรือร้นจะเป็นเรื่องดี แต่ก็ต้องรู้หรือเลือกจังหวะให้ถูกกับสถานการณ์ได้ด้วยโดยเฉพาะถ้าจะต้องตัดสินใจอะไรสักอย่าง คุณก็ควรตั้งสติ วิเคราะห์และเข้าใจเงื่อนไขต่าง ๆ
ที่เกี่ยวข้องเพื่อตัดสินได้อย่างเหมาะสมทริคก็คือให้ลองถอยกลับมาตั้งหลักแล้วทบทวนอย่างรอบคอบ มีความอดทนในการพิจารณาภาพรวมที่ใหญ่กว่า ซึ่งถ้าคุณใจร้อนหรือ
ด่วนตัดสินใจโดยไม่คิดให้ถี่ถ้วน ก็อาจส่งผลเสียใหญ่หลวงตามมาได้
9. สัญญาไม่เป็นสัญญา
ใครที่รู้ตัวว่าเป็นคนเรื่อยเฉื่อย ชอบผัดวันประกันพรุ่ง หรือรับปากอะไรแล้วทำไม่ค่อยจะได้ตามนั้น ขอให้รู้ว่า คุณกำลังดิสเครดิตตัวเองลงมาเรื่อยๆ โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นผู้นำ
องค์กรด้วยแล้ว พฤติกรรมแบบนี้จะทำให้ใครๆต่างก็ไม่เชื่อถือคุณถ้าอยากจะให้ทุกๆ คนยอมรับหรือเชื่อถือในตัวคุณ สิ่งพื้นฐานสุดๆ ก็คือ สัญญาอะไรไว้ก็ต้องทำตามที่พูด
เมื่อนั้นคนรอบข้างไม่ว่าจะเป็นลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน จนถึงลูกค้าก็จะเชื่อมั่นในตัวคุณ
10. ไม่รู้จัก “ยืดหยุ่น”
การรู้จักคิดวิเคราะห์อะไรๆ ได้ด้วยตัวเอง รวมถึงการเปิดรับคำแนะนำ ติชมจากคนอื่นๆ ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดได้
แม้ว่าการทำตามแผนที่วางไว้จะเป็นสิ่งจำเป็นต่อธุรกิจแต่ถ้าคุณเข้มงวดหรือเถรตรงจนเกินไป ไม่ว่าจะเป็นความคิด ความเชื่อ จนถึงการตัดสินใจใดๆ มันก็จะทำให้ “ตัวเลือก”
ของคุณมีน้อยเกินกว่าจะปรับเปลี่ยนได้ทันสถานการณ์ แน่นอนว่ามันย่อมส่งผลเสียต่อธุรกิจของคุณองค์กรที่ประสบความสำเร็จในบางครั้งก็ต้องมีความยืดหยุ่น โดยเฉพาะ
ในสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน ใน วิ ก ฤ ต ิก็อาจพลิกเป็นโอกาสได้ ถ้าคุณสามารถสร้างสรรค์โซลูชั่นใหม่ๆ ขึ้นมาได้
11. มาจากดาว “ช่างแซะ”
เบื่อไหม เวลามีเพื่อนร่วมงานช่างแซะ แขวะมันซะทุกเรื่อง!แม้ว่า การจิกกัดเล็กๆ น้อยๆ อาจดูเป็นเรื่องสนุก เป็นความบันเทิงชนิดหนึ่งในออฟฟิศ แต่ถ้ามากเกินไป หรือล้ำเส้น
คุณก็อาจกลายเป็นตัวน่ารังเกียจของคนอื่นๆ ได้ถ้าคิดว่า การเหน็บแนมจิกกัด หรือสร้างเรื่องตลกจากข้อด้อยของคนอื่นจะทำให้คุณดูฉลาดแล้วล่ะก็ บอกได้เลยว่า คุณคิดผิด
โดยเฉพาะคำพูดเชิงดูถูก เสียดสีให้คนอื่นดู แ ย่ นั้น ขอให้เลิกเลยจะดีที่สุด!คนฉลาดๆ เขาไม่ทำกันแบบนี้เพราะยิ่งว่าคนอื่นมากเท่าไหร่ คุณก็ดู แ ย่ มากขึ้นเท่านั้นเลิกนิสัยนี้เสีย
แล้วลองดูใหม่ ปฏิบัติต่อทุกคนด้วยดี มี ม า ร ย า ท เคารพคนอื่น และบังคับใจตัวเองที่คันปากอยากจะแซะคนอื่นให้ได้ เอาความครีเอทีฟในการช่างแซะไปหาวิธีพูดจาให้สร้างสรรค์จะดีกว่า
ขอบคุณที่มา : m a r k e t i n g o o p s