
ผมเจอคนรู้จักรอบๆตัวหลายคน บางคนเป็นพนักงานโรงงาน เงินเดือน 11,000 แต่ยอมกู้เงิน 25,000 เพื่อไปซื้อโทรศัพท์รุ่นแพงเพื่อจะมีเหมือนคนอื่นๆบางคนเป็นพนักงานบรษัท
เงินเดือน 15,000 แต่รู ดบั ต รเพื่อซื้อกระเป๋าร าค าหลายหมื่น เพียงเพราะ “คนที่เขาไม่ชอบนั้น…มี” สาวกลางคืนที่ผมรู้จัก ไปหาลูกค้า ได้เงินมาก็เอาไปซื้อเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า
ราคาแพงแต่ชีวิตก็ยังต้องลำบาก มีหนี้สินรุงรัง เบื่อชีวิตการทำงาน เบื่อเจ้านาย เบื่อเพื่อนร่วมงาน อยากจะลาออกทุกเดือน แต่ก็ออกไม่ได้ เพราะมีหนี้ต้องใช้ มีบัตรเครดิตต้องจ่าย
ทุกเดือน สุดท้ายก็ยังคงต้องทำงานในที่ที่ตัวเองไม่ชอบ และรู้สึกอึดอัดอยู่ทุกวัน
1. เลิกใช้ชีวิตแบบรสนิยมสูง แต่รายได้ต่ำ
การมีรสนิยมสูงนั้นไม่ผิด แต่การที่ทำอะไรเกินตัว ให้ความสำคัญกับสิ่งของนอกกายมากเกินไป จนทำให้ตัวเองต้องลำบากหามาครอบครองโดยที่ยอมอดแบบนั้น ก็ไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง
รสนิยมที่ดีคือการเริ่มต้นจาก การมองเห็นถึงคุณค่าของตัวเองก่อน ไม่ใช่ให้ค่ากับวัตถุเกินไปจนชีวิตลำบาก
2. เลิกยุ่งเรื่องชาวบ้าน แล้วหันมาพัฒนาตัวเอง
ตั้งใจพัฒนาตัวเองให้มีทักษะที่เชี่ยวชาญ เพื่อที่จะสามารถนำไปต่อยอดในการสร้างรายได้ หรือเติบโตในอาชีพต่อไปได้ จงเสียเวลาไปกับการศึกษาและฝึกฝนตัวเองในการทำมาหากิน
ไม่ใช่ใช้เวลาไปกับการอยากรู้เรื่องคนอื่น แต่กลับไม่รู้เรื่องตัวเองเลย แล้วมานั่งใช้ชีวิตแบบเดือนชนเดือนแบบนี้
3. มองเรื่องทำมาหากินเป็นหลัก
มองหาช่องทางในการสร้างรายได้ให้กับตัวเอง ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ในเรื่องที่จะสร้างประโยชน์ สร้างชีวิตที่ดีให้กับตัวเอง ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอันดับแรกสิ่งเหล่านี้คือ
สิ่งที่ผมบอกคนเหล่านั้น ว่าควรเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงตัวเองในจุดไหน เพื่อที่ชีวิตจะไม่ต้องไปรอใช้เงินเดือนชนเดือนแบบนั้น แต่ก็ไม่มีใครเชื่อและทำตามสักคน สุดท้ายทุกคนก็
ยังคงวนอยู่ในวงจรชีวิตแบบเดิมๆ ที่ต้องแต่งตัวประคมของแพงๆ ใช้รถร าค าแพง เพื่อให้คนอื่นเห็นว่าขับรถแพง เพื่อออกไปทำงานตามคำสั่งคนอื่น สิ้นเดือนรับเงินใช้จ่ายอย่างเศรษฐี
พอกลางเดือนต้องกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป สิ้นเดือนก่อนเงินเดือนออก แต่เงินหมดก่อน ก็ต้องไปหายืมคนนั้นคนนี้มาใช้ให้พอหลายคนยอมใช้ชีวิตแบบนี้ ยอมเป็นหนี้เพื่อให้คนอื่นมองว่า
“ตัวเองนั้นมีเหมือนคนอื่น” แต่กลับต้องมานั่งใช้หนี้ไม่จบไม่สิ้น ชีวิตไม่มีความสุข ไม่มีอิสระ คิดหาเงินมาใช้หนี้อยู่ทุกวัน และจะยังคงเป็นแบบนี้อยู่ตลอดไป ถ้ายังไม่รู้จักเปลี่ยน
ความคิด ปรับพฤติกรรมใหม่
ขอบคุณที่มา : b i t c o r e t e c h