
ชีวิตของคนเรา ต่างมีความแตกต่าง แตกต่างในด้านของความคิด
การใช้ชีวิต คำพูด การกระทำ เป้าหมาย แต่พอเมื่อถึงวัยที่เราควรที่จะต้องปล่อยวางลงเสียบ้าง
รักตัวเองเสียบ้าง ทำให้ตัวเองมีความสุขในทุกวัน ไม่ยากอย่างที่คิดเลยคนเรานั้นเมื่อมีอายุที่มากขึ้น
ชีวิตย่อมมีความไม่แน่นอนอย่าไปมัวคิด กังวลกับเรื่องราวต่างๆ หากคุณจากไป จะเกิดอะไรขึ้น
เพราะเมื่อกลายเป็นผงธุลีไปแล้วใครเขาจะยกย่อง ชื่นชมหรือตำหนิประณามตัวคุณอย่างไร
คุณจะไปรู้สึกรู้สาอะไรได้ลูกของคุณ ที่เลี้ยงดูมานั้นเขาจะมีชีวิตอย่างไรก็อย่าไปเป็นห่วงเขานัก
พวกเขาก็ต่างที่จะมีจุดมุ่งหมาย เป้าหมายในชีวิตของเขาและมีหนทางในการเดินของตัวเอง
เมื่อคุณได้จากไปแล้ว คุณยังไม่เลิกเป็นทาสของลูกอีกหรอ? อย่าคาดหวังอะไรมากจากเด็กๆ
ต่อให้คุณชุบเลี้ยงใครไว้คอยดูแลคุณยามแก่เฒ่าเขาก็ต้องวุ่นวายกับการงานของเขา
และภาระผูกพัน หน้าที่ต่างๆ เกินกว่าจะมีเวลามาช่วยเหลือ คอยดูแลตลอด 24 ชั่ วโมง
หรือแม้แต่ลูกจริงๆ นั้นก็อาจจะกำลังทะเลาะกันอยู่เพื่อ แ ย่ ง ทรัพย์สมบัติของคุณอยู่
ทั้งๆ ที่คุณยังมีชีวิตอยู่ก็ได้ดีขึ้นมาหน่อย ก็อาจจะแค่แอบภาวนาให้คุณอย่าใช้เงินให้มาก
และรีบจากไปเสียเร็วๆอย่างนี้ก็มีให้เห็นอยู่ถมไปคุณไม่รู้หรอกหรือว่าบรรดาลูกๆ
เขาถือว่าทรัพย์สมบัติของคุณเป็นสิทธิ์ขาดของเขาไปแล้วคุณจึงไม่มีสิทธิ์จะไปกำหนดอะไรได้เลย
ในเงินที่เป็นของเขา…เข้าใจไหม?คนอายุเกิน ๕๐ อย่างคุณต้องเลิกเอา สุ ข ภ า พ ของคุณที่มี
ไปแลกกับความร่ำรวยได้แล้วมีเงินมากมายเท่าไร ก็ซื้อ สุ ข ภ า พ คืนมาไม่ได้คุณตอบได้ไหม
ว่าจะหยุดหาเงิน เมื่อใดเท่าไหร่คุณถึงจะบอกว่า พอแล้ว ร้อย พัน หมื่น ล้าน สิบล้าน พอรึยังไม่ทราบ?
ต่อให้คุณมีไร่นานับเป็นพันไร่คุณก็กินข้าวได้แค่วันละสามจานเท่านั้นแม้นมีคฤหาสน์นับพันหลัง
คุณก็ต้องการพื้นที่หลับนอนยามค่ำคืน ก็เท่านั้นดังนั้น..ตราบใดที่คุณยังมีข้าวปลาอาหารกินอย่างเพียงพอ
อย่างอิ่มท้องมีเงินพอใช้สอยได้ทุกวันของชีวิตเพียงเท่านี้ก็ดีเหลือหลายแล้วล่ะอายุเท่านี้แล้ว
คุณควรอยู่อย่างเป็นสุขปล่อยวางเรื่องราวต่างๆไปเสียบ้างอย่าเก็บมาคิดให้เป็นทุกข์
ทุกบ้านต่างก็มีปัญหาของตนเองอย่ามัวไปคิดเปรียบเทียบ แก่ง แ ย่ ง แข่งดีกันไม่ว่าชื่อเสียง
ฐานะในสังคมหรือความก้าวหน้าของเด็กๆสิ่งที่ควรจะแข่งกันทำกันจริงๆ นั้น คือ “แข่งกันมีความสุข”
แข่งกันมี “ สุ ข ภ า พ ดีและอายุยืนนาน” ส่วนอะไร ที่เราเปลี่ยนมันไม่ได้ก็อย่าไปฝังอกฝังใจ
ให้ ป่ ว ย การและ ทำ ล า ย สุ ข ภ า พ ตัวเองเลยอายุป่านนี้แล้วก็ยังเปลี่ยนมันไม่ได้เลย
หลัง ๕๐ แล้วอย่างนี้คุณต้องค้นหาหนทางของคุณเอง ที่จะสร้างชีวิตที่เป็นอยู่ดีๆ
และสุขสดใสขึ้นมาให้ได้ตราบใดที่มันทำให้คุณอารมณ์ดีคิดถึงแต่สิ่งที่ทำให้เป็นสุขทำอะไรก็สุข
สนุกกับมันอยู่ทุกวันนั่นก็หมายความว่า คุณได้ผ่านวันเวลาอย่างเป็นสุขแล้วทุกวันวานที่ผ่านไป
คุณจะสูญเสียไป ๑ วันแต่ถ้ามันผ่านไปอย่างเป็นสุขวันนั้นคือกำไรชัดๆ เลย
จิตใจที่ดีจะช่วย รั ก ษ า โ ร ค ภั ย ได้ถ้าจิตใจเป็นสุข โ ร ค ก็จะหายเร็วขึ้น
แต่ถ้าจิตใจทั้งดี ทั้งเป็นสุขด้วยแล้วล่ะก็ความ เ จ็ บ ป่ ว ย จะไม่มีทางมาแผ้วพานได้ด้วยอารมณ์ที่ดีแจ่มใส
อยู่เป็นนิจออกกำลังกายให้เพียงพออยู่กลางแจ้งบ่อยๆ กินอาหารให้ครบหมู่ได้วิตามิน
และแร่ธาตุอย่างเพียงพอเพียงเท่านี้ ก็เชื่อได้แน่นอนว่าชีวิตที่เป็นสุข อีก ๒๐ หรือ ๓๐ ปี
จะเป็นของคุณแน่นอนเหนือสิ่งอื่นใด… คุณต้องรู้จักบ่มเพาะ และเก็บเกี่ยวความสุขดีๆ
จากการได้อยู่ ได้เที่ยว ได้คุยกับเพื่อนๆ เพราะเขาเหล่านี้จะช่วยให้คุณรู้สึกเยาว์วัย
และมีความหมายอยู่เสมอ ขาดพวกเขาเมื่อใด…คุณจะต้องรู้สึกสูญเสียอย่างแน่นอนครับ…
เมื่อได้อ่านแล้วเห็น “เฉลียงชีวิต” ในวัยชรากันบ้างไหม?
ก็ต้องขอบคุณทั้งเจ้าของความคิด ผู้เผยแพร่ และทั้งผู้ส่งให้ผมอ่าน
ก็อยากบอกว่า….อายุเราเลือกไม่ได้ก็จริง แต่ชีวิตแต่ละช่วงชีวิต เราเลือกได้เอง…
ขอขอบคุณ p o s t s a r a