
การเป็นคนดีนั้น เป็นสิ่งที่ดี และน่ายกย่องแต่ควรจะเป็นแค่ “คนดี” อย่าเป็น “คนโ ง่” ด้วยเป็นคนดีได้ ก็ต้องรู้จักเอาตัวรอดให้เป็นอย่าปล่อยให้คนอื่นมา “ทำ ร้ า ย” ตัวเองหรือเอาเปรียบจนตัวเองต้องลำบากเสียเอง
เพราะไม่เช่นนั้น การเป็นคนดี ก็คงไม่มีความหมายอะไรสุดท้ายก็ไม่สามารถปกป้องตัวเองได้อยู่ดีหากคุณเป็นคนแบบ…ยังไงก็ได้… อะไรก็ดี…!!นี่แหละทำให้คุณไม่ถูกมองอยู่ในสายตาคนอื่น
อย ากได้อะไร คุณก็ให้ได้ ทำผิดอะไร คุณก็ไม่ติดใจคนอื่นทำไม่ดีกับคุณมากี่ครั้งแล้ว.. คุณก็ยังยอมทน..!การเป็นคนมีน้ำใจไม่ได้แปลว่าต้อง…โ ง่!!การเป็นคนดีก็ไม่ได้แปลว่าต้อง…ยอมตลอดไป
มีเรื่องเล่าอยู่ว่า…นักบวชคนหนึ่ง กำลังนั่งสมาธิฝึกจิต อยู่ริมฝั่งทะเลสาบในระหว่างที่นั่งฝึกอยู่นั้น ท่ามกลางความเงียบ ก็ได้ยินเสียงอะไรสั่นไหวอยู่ในน้ำ
เมื่อนักบวชลืมตาขึ้น ก็มองไปเห็นอะไรสักอย่างที่เคลื่อนไหวในน้ำมองดูชัดๆ ก็เห็นแมงป่องตัวหนึ่ง กำลังตะเกียกตะกายอยู่บนผิวน้ำ เพราะกำลังจะจม
นักบวชจึงได้เอื้อมมือไปจับแมงป่องขึ้นมาจากน้ำ โดยไม่ทันระวังได้คิดอะไรเลยโดนแมงป่องต่อยเข้าที่มือ และเขาก็ได้วางแมงป่องลงที่พื้น จากนั้นก็นั่งฝึกสมาธิต่อ
สักพักเขาก็ได้ยินเสียงแบบเดิมอีก เมื่อลืมตาดูก็พบแมงป่องตัวเดิมหล่นไปในน้ำเขายื่นมือไปช่วยมันอีกครั้ง และก็ยังโดนต่อยเหมือนเดิม และก็เกิดเหตุการณ์แบบเดิมอีกครั้ง
ทันใดนั้นเอง ชาวบ้ านที่ยืนตกปลาอยู่มองดูเหตุการณ์อยู่พักใหญ่ก็ได้พูดขึ้นว่า “ทำไมท่านช่างโ ง่ขนาดนี้ ไม่รู้หรอว่าแมงป่องชอบต่อยคน”นักบวชจึงตอบกลับไปว่า “ข้ารู้สิ แล้วก็โดนต่อยไป 3 ครั้งติดกันแล้ว”
ชาวบ้ านจึงถามนักบวชต่อว่า “ถ้าท่านรู้แล้ว ทำไมท่านยังจะไปช่วยมัน เพื่อให้ต่อยตัวเองอยู่อีกละ”นักบวชจึงตอบไปว่า “การ ทำ ร้ า ย คนอื่น อาจจะเป็นนิสัยของแมงป่อง แต่การเป็นคนมีเมตตา ช่วยเหลือผู้อื่น ก็เป็นนิสัยของข้าเช่นกัน และข้าจะไม่เปลี่ยนนิสัยของตัวเองไป เพียงเพราะนิสัย ดุ ร้ า ย ของแมงป่อง”
ชาวบ้ านได้ยินดังนั้น ก็ได้แต่หัวเราะและพูดไปว่า “ท่านเป็นคนมีเมตตา นั่นเป็นเรื่องที่ดี เมื่อท่านรู้จักเมตตาต่อแมงป่องแล้ว ท่านก็ต้องรู้จักเมตตาต่อตัวเองด้วยนะ การจะหยิบยื่นความเมตตาให้คนอื่น ต้องรู้จักวิธีที่เหมาะสมด้วยเช่นกัน ท่านต้องรู้จักป้องกันตัวเองก่อน ก่อนที่จะยื่นมือไปช่วยเหลือคนอื่น”
คนเราเมื่ออย ากจะช่วยเหลือ “คนอื่น” ก็ต้องรู้จักช่วยเหลือ “ตัวเอง” ให้เป็นก่อนเพราะไม่เช่นนั้น คุณจะกลายเป็นคนที่ “ทำ ร้ า ย” ตัวเองเสียเอง
ที่มา : นุ ส น ธิ์ บุ ค ส์