Home ข้อคิดดีๆ คน 5 ประเภท ถ้าไม่มีการปรับตัว จะเริ่มอยู่ยาก อาจมีสิทธิ์ตกงาน

คน 5 ประเภท ถ้าไม่มีการปรับตัว จะเริ่มอยู่ยาก อาจมีสิทธิ์ตกงาน

21 second read
0
0

อาจารย์ Li Kaifu เคยกล่าว เอาไว้ว่า… ” ภายใน 3-5 ปีข้างหน้า บริษัทจะเริ่มทะยอยปลดพนักงานออกเพื่อลดค่าใช้จ่าย และ อีก 10 ปีข้างหน้า งานกว่า 50% ของมนุษย์จะถูกแทนที่

ด้วยหุ่นยนต์ “ ในอีกความหมายหนึ่งก็คือ.. อีกไม่กี่ปีข้างหน้า คนกว่าครึ่งหนึ่งในบริษัทจะต้องตกงานเพราะการมาแทนที่ของหุ่นยนต์ และเทคโนโลยีต่างๆแต่ดูเหมือนว่าเรื่องเหล่านี้

จะเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คิดเพราะในปีที่ผ่านมาเราต่างเห็น บริษัทต่างๆ ทยอยปลดพนักงานออกลดจำนวนพนักงานเพื่อลดรายจ่าย และ ในบางแห่งเริ่มแทนที่พนักงานด้วยหุ่นยนต์เพราะฉะนั้น

อย่าคิดว่าเรื่องเหล่านี้ เป็นเรื่องไกลตัว เพราะ ในหลายๆ ประเทศที่พัฒนาแล้วเริ่มทยอย ปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ในไม่ช้านี้บ้านเราก็คงต้องปรับตัวตามซึ่ง คน 5 ประเภทนี้มีโอกาสที่

จะเจอกันเหตุการณ์เหล่านี้

ประเภทที่ 1 : คนที่นอกเหนือจาก 8 ชั่ ว โมงไม่เรียนรู้

มีเพื่อนผมคนหนึ่ง ทำงานที่โกดังสินค้า คอยเช็คจำนวนสินค้า ในคลังเป็นงานง่ายๆที่เหมือนจะถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์ในอนาคตแต่เมื่อทำงานปีแรกเขาก็ค้นพบว่ามีของบางอย่างที่ถูก

จัดส่งเป็นจำนวนมาเขาเริ่มเกิดไอเดีย จึงไปค้นหาข้อมูลต่อและพบว่าของบางอย่างในโกดังนั้นเป็นที่ต้องการของตลาดมากด้วยความที่อยู่ในวงการนี้อยู่แล้วทำให้เขามองหาแหล่งผลิต

ที่ต้นทุนถูกได้และ เริ่มนำมาลงหน้าเว็ปเพื่อขายออนไลน์ ผ่านไป 3 ปี ธุรกิจขยายตัวอย่างรวดเร็วปีที่ 7 เขาก็เปิดบริษัทของตัวเอง…!! ตลอดระยะเวลาแห่งงานเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เขาไม่เคย

หยุดทำก็คือ ใช้เวลานอกเหนือจาก 8 ชั่ ว โมงในการเรียนรู้ยุคสมัยนี้ เป็นยุคแห่งการเรียนรู้ ความรู้เติบโตขึ้นในอัตราที่ก้าวกระโดดทุกคนมีอินเตอร์เน็ต สามารถเข้าถึงความรู้ต่างๆได้อย่าง

รวดเร็วแค่ปลายนิ้วอยู่ที่ว่าคุณจะใช้โอกาสที่มีไขว่คว้า หรือ นั่งรอวันถูกแทนที่

ประเภทที่ 2 : คนมองอะไรสั้นๆ ตัดสินแค่สิ่งที่อยู่ตรงหน้าทันที

หลังเรียนจบ Li Ting และ Tan Si เข้าไปฝึกงาน ที่บริษัทบัญชี แห่งหนึ่งด้วยกันหลังหมดระยะฝึกงาน บริษัทเสนอให้ไปศึกษางานที่สำนักงานใหญ่ที่ต่างประเทศ 2 ปี แต่ได้เงินเดือน

ครึ่งเดียวไม่มีค่าคอมมิชชั่น Li Tingรู้สึกว่าเงินเดือนน้อยเกินไป แถมไม่คุ้นเคยกับการใช้ชีวิตในต่างแดนก็เลยไม่เอาส่วน Tan Si กล้าตัดสินใจเลือกไปศึกษางานที่สำนักงานใหญ่ใน

ต่างประเทศในมุมมองของเธอ…ไปศึกษางานแถม ยังได้เงินเดือน เป็นเรื่องที่คุ้มแสนคุ้ม ผ่านไป 2 ปี Tan Siกลับมาที่บริษัท ในฐานะหัวหน้าโครงการคนใหม่ รายได้ 1 ล้านต่อปีส่วน

Li Ting ยังคงทำงานในตำแหน่งเดิมเงินเดือนในตอนนี้ ไม่ถึง 1 ใน 3 ของ Tan Siไม่ใช่ว่า Tan Si ตัดสินใจถูกหรือ Li Ting ตัดสินใจผิด เพราะทั้งคู่ต่างเลือกสิ่งที่ คิดว่าดีที่สุดให้ตนเอง

แต่เมื่อเวลาที่ผ่านไปจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า การตัดสินใจของเราในอดีต จะพาเราก้าวหน้าขึ้นได้หรือไม่เมื่อก่อนปลาเล็กกินปลาใหญ่ ตอนนี้ต้องเปลี่ยนเป็นปลาเร็วกินปลาช้าสิ่งใหม่ๆ

ที่ปรากฏขึ้น มักมาพร้อมกับโอกาสทางธุรกิจ แต่เมื่อโอกาสผ่านไปคนที่ช้าก็จะไม่มีทางได้สัมผัสในยุคนี้ พวกเราต้องมีสัญชาตญาณ ของการเอาตัวรอด( เราเป็นคน ไม่ใช่หุ่นยนต์ ต้อง

รู้จักเรียนรู้ และ ปรับตัว )ค้นหาและแก้ไข้ ข้อบกพร่องของตัวเองอย่างทันท่วงทีเพื่อที่จะพัฒนาต่อไปในทิศทาง ที่ดียิ่งขึ้นไม่อย่างนั้น ในแต่ละปีที่ผ่านไป คุณจะพบว่าคุณถูกคนอื่นๆ

ทิ้งไว้ข้างหลังแล้วจะเห็นว่าตัวอย่าง ที่หยิบยกมานั้นไม่ได้เจาะจงถึงอาชีพใด เพราะทุกอาชีพ ล้วนมีโอกาสตกงานได้ทั้งนั้นแต่ยกตัวอย่าง ให้เห็นถึงทัศนะคติ ที่จะเป็นสิ่งตัดสินว่า

คุณจะถูกแทนที่หรือได้ไปต่อ

ประเภทที่ 3 : คนที่ทำงานแบบเดิมๆ ซ้ำๆ

พนักงานที่ต้องทำงาน แบบเดิมๆ ซ้ำๆ เช่น แพคของ ประกอบชิ้นส่วนจัดเรียงสินค้าในคลังงานที่อาศัยแค่การจับวาง ให้เข้าที่ไม่ได้ใช้การคิดวิเคราห์หรือการตัดสินใจใดๆเรียกว่าทำงาน

ด้านเดียวคล้ายๆ หุ่นยนต์จึงไม่แปลกเลย หากจะถูกแทนที่ ด้วยหุ่นยนต์จริงๆเพราะ หุ่นยนต์ไม่เรียกร้องขึ้นเงินเดือน ไม่ ขาด ลา มาสายไม่บ่น ไม่หยุดงานประท้วง ไม่เรียกร้องสวัสดิการเพิ่ม

ประเภทที่ 4 : คนที่ไม่เข้าใจการลงทุนในตัวเอง

เรามักจะได้ยินคำเตือนว่า… ” อย่าฟุ่มเฟือย “ แต่ถ้าเราเก็บเงินได้ 1 แสนต่อปีภายใน 10 ปี เก็บได้ 1 ล้าน นี่คือเก่งหรอ…? ไม่ใช่…! เพราะเมื่อคุณใช้เวลา 10 ปีถึงจะเก็บเงินได้ 1 ล้านคนอื่น

อาจจะใช้เวลาแค่ปีเดียว….!!ตอนที่คุณยังเยาว์วัยคุณต้องรู้ว่าจะลงทุนกับตัวเองยังไงถ้าทุกเดือนคุณเอาเงินส่วนหนึ่งมาลงทุนกับตัวเอง…บางคน.. ” ออกเดินทาเที่ยวรอบโลก “ ไปเจอ

ธุรกิจใหม่ๆที่น่าสนใจในต่างประเทศ แต่ในบ้านเรายังไม่มี ก็นำไอเดียกลับมา ต่อยอดเป็นธุรกิจของตัวเองบางคน.. ” ไปเรียนคอสการขายเสริมหลังเลิกงาน “ อาจไม่ได้รวยในทันทีแต่

การได้ทำความรู้จักคนมากมาย ก็นำพาโอกาสดีๆเข้ามาในชีวิตได้เหมือนกันบางคน.. ” ไปเข้าฟิตเนสออกกำลังกาย “ จนค้นพบ ช่องทางธุรกิจเปิดยิม ขาย อ า ห า ร เสริมสำหรับคนรัก

สุ ข ภ า พ หลายปีผ่านไปคุณจะพบว่า เงินที่คุณใช้ไป ทำให้คุณค่า ของตัวเองเพิ่มขึ้น คุณได้คืนกลับมาหลายเท่า…!!

ประเภทที่ 5 : คนที่ทำงานร่วมกับคนอื่นไม่เป็น

บริษัทต่างชาติแห่งหนึ่ง ให้เงินผู้สมัครงาน 75 บาท ให้พวกเขา ไปหาข้าวกินด้วยกันผู้สมัคร 6 คนไปถึงร้าน อ า ห า ร ด้วยกัน แต่ข้าวจานหนึ่งราคาอย่างต่ำ 15 บาทเงินที่พวกเขามีไม่พอ

จะซื้อข้าว คนละจานเลยด้วยซ้ำ ก็เลยกลับไปบริษัทพอถึงบริษัท ประธานบริษัทรู้เข้าก็ส่ายหน้า : ” ขอโทษด้วย พวกคุณไม่เหมาะกับบริษัทเรา ”รู้ไหม…? ร้าน อ า ห า ร ร้านนั้น มีโปรโมชั่น

ซื้อ 5 แถม 1 ไม่ได้ อ่ า น ดูรายละเอียดในเมนูเลยหรอ นี่แสดงให้เห็นถึงความไม่ใส่ใจหรือ ถึงแม้ไม่มีโปร 5 แถม 1 ก็ยังขอจานเปล่ามาหนึ่งใบแล้วสั่งข้าว 5 จานมาแบ่งกันกินได้ แต่ผู้สมัคร

ทั้ง 6 คนไม่มีใครคิดว่ามาด้วยกันจึงไม่เกิดคำว่า เป็นทีมเดียวกัน ทุกคนต่างคิดถึงแต่ตัวเองเมื่อเข้ามาอยู่ในองค์กรก็ไม่รู้จักการทำงานเป็นทีม รู้ไหม…? ทีมเวิร์คที่ดีนี่แหละที่ทำให้

มนุษย์เหนือกว่าหุ่นยนต์

ขอบคุณที่มา : b i t c o r e t e c h

Load More Related Articles
Load More By verrysmilejung99
Load More In ข้อคิดดีๆ

Check Also

10 วิธีการใช้ชีวิตแบบ “อยู่เป็น”ในที่ทำงาน

ความไม่แน่นอนเป็นสิ่งที่แน่นอน เพราะเราไม่อาจรู้ได้ว่าวิกฤตจะเกิดกับองค์กรเราเมื่อไหร่ เมื…