
หากคุณได้ อ่ า น บทความนี้แล้ว อาจจะทำให้เราได้เป็นมุมมอง อีกมุมมองหนึ่งที่จะทำให้คุณมองเห็นคนในหลายแง่มุม
และคุณเองจะรู้ว่า คนเรามีหลายประเภท วันนี้ปริญญาชีวิต มีบทความดีๆ ค่ะสำหรับ “คนในกะลา”
คนอยู่แต่ในกะลามักแปรเจตนาผู้อื่นไปในทางที่ไม่ดีเสมอ บางคนนั้นใจแคบยิ่งนัก ไม่สนคนอื่น ไม่ฟังใคร
ตัวเองนั้นเป็นศูนย์กลางของจักรวาล ไม่เปิดใจรับสิ่งใหม่ มีอดีตที่ยึดติดและฝังอยู่ในใจตัวเองเสมอมา
ไม่คิดที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งนั้น มองโลกแค่ในมุม ของตัวเอง คนพวกนี้มักเป็นคนที่
1. เอาแต่คิดว่าตัวเองถูกอยู่ฝ่ายเดียวไม่ว่าใครจะพูดอะไร หรืออธิบายหลักการเหตุผลยังไง
ยังคิดว่า ตัวเองถูกตลอดสังเกตุได้ว่าเวลามีข้อขัดแย้ง จะเถียงเอาให้ตัวเองชนะให้ได้ ไม่มีการรับฟังชาวบ้าน
ใช้ตรรกะวิบัติเหตุผลวิบัติไปเรื่อยๆ แถๆๆ ข้างๆ คูๆ เพื่อเอาชนะเราก็เท่านั้นเจอคนแบบนี้เงียบดีกว่าค่ะ
จำไว้ว่า “เสือไม่มีวันลดตัวไป กัดกับหมา” ฉันใดก็ฉันนั้นเจ้าค่ะ
ยิ่งถ้าคนแบบนี้เป็นหัวหน้าทีม หรือเป็นผู้จัด การทีมแล้วล่ะก็ ทีมหรือบริษัทนั้นไม่มีวันเจริญแน่ๆ
2. ทำตัวก้าวร้าว เสียงดังกลบเกลื่อน มีการ วิ จั ย มาว่าพวกฉลาดน้อยจะก้าวร้าวมากกว่าเมื่อคุมสถานการณ์ไม่อยู่
เหตุการณ์ไม่เป็นดั่งที่คิดจะมีอาการโมโหก้าร้าว กลบเกลื่อนหวังสยบ ให้จบข่าวเจอไม้นี้ให้เดินหนีทันทีค่ะ
ไม่ต้องพูดอะไรต่อทั้งนั้นคนพวกนี้จะรู้สึกค้างวคาใจ เพราะเหมือนเคลียร์ไม่จบ แล้วอาจจะรู้สึกอึดอัดจนอกแตกไปเอง
3. มักโยนความผิดให้คนอื่นเสมอ ถ้าคนธรรมดาทำผิด ก็จะรับและใช้เป็นบทเรียนพร้อมปรับปรุงแก้ไขในวันต่อไปไม่ให้ผิดอีก
แต่ถ้าผิดแล้วโยนความผิดให้คนอื่นเรียกว่า‘ โ ง่ ’แค่นี้ก็ไม่รู้ว่าตัวเองผิด แค่นี้ก็ไม่กล้าปรับปรุงก็เลย โ ง่อยู่อย่างนั้น โ ง่ ซ้ำๆ ซากๆ
ถ้าเจอคนแบบนี้ อย่ารู้จักจะดีกว่าเนอะ ปล่อยเขาไปตาม เ ว ร ตาม ก ร ร ม เถอะ
4. ทำตัวเองข่มคนอื่น ทำตัวเหนือกว่าคนอื่นเสมอ ไม่ใช่ทิศเหนือใต้แต่เป็นการมองว่าตัวเองดีกว่าคนอื่น
เสียดสี ติติงคนอื่นให้ตัวเองดูดี ตัดสินโดยมีความลำเอียงเกาะติดตลอดมี วิ จั ย ว่าพวกไอคิวต่ำจะรับอะไรได้ยาก
เข้าใจอะไรยากไม่เหมือนพวกฉลาด ที่พร้อมจะเข้าใจเห็นใจทำอะไรให้ใครช่วยเหลือใครก็ไม่หวังผล
แต่พวกคน โ ง่ จะไม่เข้าใจเรื่องแบบนี้อัตตามันสูง เมื่อให้แปลว่า ต้องได้รับตอบแทน
ก็คนอย่างฉันอุตส่าห์ให้คนอย่างเธอประมาณนั้นเมื่อเจอแบบนี้วิธีที่น่าจะดีคือเงียบ
มันไม่มีประโยชน์อะไรกับการเถียงกับคนในกะลาถ้าต้องคุยก็เอาเฉพาะสิ่งที่เกี่ยวให้ตรงประเด็น
หรือหยุดได้ก็หยุดดีกว่า เล็งจังหวะที่ควรจะหยุดอย่าพ ย า ย า มเอาชนะเพราะจะไม่มีวันชนะคน โ ง่
และยิ่ง บ้ า ด้วยนี่ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกรรม จะใช้เหตุผลหลักฐานอะไรมาให้ดูก็คงไม่สนเผลอๆ มีท้าทายกลับมา
เราจะเสียอารมณ์เองด้วย เอาเป็นว่าขอไม่เจอดีกว่านะ มันเหนื่อยและเสียเวลาชีวิตชีวิตคนเรา
ต้องรู้จักมองเห็นข้อดี ข้อเด่นของคนอื่น ชื่นชมในข้อดี ลืมข้อด้อยของเขาใจคุณกว้างเท่าใดโลกก็กว้างตามคุณเท่านั้น
ถ้าเรารู้จักเหตุ ก็สร้างเหตุขึ้น ผลมันก็เกิดตามมาเอง แต่คนเราไม่ทำอย่างนั้น ส่วนมากต้องการแต่ดีๆ
แต่ไม่สร้างความดี มันจะเกิดมาจากไหนได้ มันก็ย่อมพบแต่สิ่งที่ไม่ดีนั่นแหละ เมื่อได้สิ่งไม่ดีใจ
มันก็เกิดเป็นทุกข์ เป็นร้อนขึ้นมาทันที ฝึกให้ตัวเองพ้นไปจากความเป็นขี้ข้าของเงิน
หมายความว่า เราต้องหัดพอใจกับสิ่งที่ตัวเองมีอยู่
ขอขอบคุณ p a r i n y a c h e e w i t